“ญี่ปุ่น” เมืองในฝันของใครหลาย ๆ คน ด้วยการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่นอันทรงคุณค่าและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ทำให้ดินแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้มีเสน่ห์ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้หลั่งไหลมาเยี่ยมชมได้อย่างไม่ขาดสาย แต่ด้วยค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นวันนี้เรามีเคล็ดลับในการเก็บเงินมาแนะนำให้ทุกคนได้ลองเอาไปทำกันดูค่ะ

เราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยผ่านการออมเงินกันมาบ้าง ผ่านเจ้ากระปุกออมสินหมูอ้วนที่เราคุ้นตา หรือสมุดบัญชีเงินฝากที่ผู้ปกครองพาไปเปิดไว้ในตอนเด็ก ๆ เมื่อโตขึ้น มีหน้าที่การงาน มีเงินเดือนสิ่งที่ตามมาคือการบริหารวางแผนให้เงินเดือนมีสัดส่วนอย่างชัดเจน และเมื่อมี “ความต้องการ” เพิ่มเข้ามา สิ่งที่เราต้องทำง่าย ๆ เลยคือ
1) ตั้งงบประมาณขึ้นมาก่อนเลยว่า ถ้าเราจะไปญี่ปุ่นต้องใช้เท่าไหร่ ? เช่น ตั้งงบไว้ที่ 50,000 บาท
2) วางแผน แบ่งเงินเดือนออกมาส่วนหนึ่งทันที การทำเช่นนี้ทำให้สามารถเห็นวงเงินได้อย่างชัดเจน
– เคล็ดลับที่ 1 : เริ่มที่เก็บเงินแบงค์ 50 ทุกใบที่ผ่านเข้ามาในกระเป๋าเรา วางแผนไว้ที่ 200 ใบต่อปี ก็จะเป็นเงิน 10,000 บาท
– เคล็ดลับที่ 2 : หักเศษเงินเดือน เก็บเศษของเงินเดือนที่เกินออกมาจากจำนวนเต็ม เช่น 640 บาท ในทุก ๆเดือน เป็นระยะเวลา 1 ปีก็จะได้เงินจำนวน 7,680 บาท
– เคล็ดลับที่ 3 : เก็บเงินเหรียญที่เหลืออยู่ในกระเป๋าทุกเหรียญในแต่ละวัน ใน 1 เดือน อาจได้เป็นจำนวน 1,000 บาท จากนั้นนำไปฝากธนาคารไว้ทุก ๆ เดือน เมื่อครบ 1 ปี ก็จะเป็นเงินประมาณ 12,000 บาท
– เคล็ดลับที่ 4: ออมเงินเท่ากับราคาอาหารมื้อเที่ยงของทุกวัน เพื่อเป็นการฝึกนิสัยใช้จ่ายฟุ่มเฟือย กินมื้อเที่ยงเยอะเท่าไหร่ ให้ออมเงินในจำนวนเท่ากัน มื้อเที่ยงคิดเฉลี่ยว่า 100 บาททุกวัน ใน 1 ปี จะรวมเป็นเงินออมประมาณ 36,000 บาท
– รวมทั้งหมดใน 1 ปี จะมีเงินออมประมาณ 65,680 บาทเลยค่ะ ถือว่าตรงตามเป้าหมาย
3) การวางแผนการเดินทางก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก เช่น การศึกษาเส้นทาง การจองตั๋วเครื่องบิน การจองโรงแรม เราต้องหาข้อมูลมาลองเปรียบเทียบราคาดูว่า ไปแบบไหนที่จะคุ้มค่าที่สุด ไม่ใช่ว่าของถูกจะไม่ดีและของแพงจะดีเสมอไป
4) หลังจากเราเก็บออมเงินได้ตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้แล้ว (หรือบางคนอาจจะได้เกินเป้า ก็ถึงเวลาที่จะเตรียมลัดฟ้าสู่ดินแดนอาทิตย์อุทัยอันแสนศิวิไลซ์ Land mark ที่เราจะพลาดไม่ได้คือการชมดอกซากุระ และ ไปเยี่ยม “ฟูจิซัง” หรือภูเขาไฟฟูจินั้นเอง
สถานที่ชมซากุระที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นนั้นมีหลายที่ด้วยกัน แต่ถ้าอยากคุ้มค่าจนเรียกได้ว่าไป 1 ได้ถึง 2 เรามี 4 สถานที่ที่จะทำให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับทั้งความสวยงามของดอกซากุระและทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟฟูจิมาแนะนำกันค่ะ
แหล่งดูซากุระบานสุดฟิน

เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda)

ภาพจาก:iStockphoto
เจดีย์ชูเรโตะเป็นเจดีย์ 5 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ในศาลเจ้าอาราคุระเซนเกน (Arakura Sengen Shrine) ที่เป็นศาลเจ้าประจำเมือง และตั้งอยู่บนเนินเขาของเมืองฟูจิโยชิดะ (Fujiyoshida City) นักท่องเที่ยวจะต้องขึ้นบันไดกว่า 400 ขั้น ซึ่งวิวฝั่งตรงข้ามเมื่อเรามองจากจุดนี้คือ ภูเขาไฟฟูจินั้นเอง เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมักจะมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันตลอดทั้งปี โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลิ (กลางเดือนเมษายน) ที่ทิวทัศน์จะสวยงามยิ่งขึ้นเพราะสีชมพูของดอกซากุระที่จะกับสีขาวของยอดภูเขาไฟฟูจิ แสงจะสวยที่สุดในช่วงเช้าตรู่
อ่านรายละเอียด : โตเกียว ญี่ปุ่น
การเดินทางจากประเทศไทยนั้นมีหลากหลายสายการบินให้บริการค่ะ โดยปลายทางคือเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สำหรับการเดินทางไปยังเจดีย์ชูเรโตะเริ่มต้นจากสถานีรถไฟฟ้า Fujikyu railway ลงที่สถานี Shimoyoshida อัตราค่าโดยสารประมาณ 290 เยน จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 25 นาทีค่ะ
ตั๋วเครื่องบินไปโตเกียว
Hotel Fuji Tatsugaoka โรงแรม 3 ดาว ใกล้สวนสนุก Fuji-Q Highland โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในFujiyoshida ภายในระยะ 2 กม. จากซุ้มประตู Kanadorii และสวนสนุก Fuji-Q Highland ส่วนเจดีย์ 5 ชั้นชูเรโตะ และศาลเจ้า Kitaguchiihongu Fuji Sengen อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 3 กม. สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องอาหาร, สวน และอาหารเช้าฟรี พร้อมให้บริการ ทางที่พักยังให้บริการ WiFi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ และที่จอดรถฟรี
Fujisan Station Hotel โรงแรม 3 ดาว ใกล้สวนสนุก Fuji-Q Highland โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในFujiyoshida ภายในระยะ 2 กม. จากซุ้มประตู Kanadorii, สวนสนุก Fuji-Q Highland และศาลเจ้า Kitaguchiihongu Fuji Sengen ส่วนเจดีย์ 5 ชั้นชูเรโตะ และกระเช้าลอยฟ้าภูเขา Kachi Kachi อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 5 กม. สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม นอกจากห้องประชุมแล้ว โรงแรมนี้ยังมีอุปกรณ์ซักรีด และอาหารเช้าฟรี ทางที่พักยังให้บริการ WiFi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ และที่จอดรถฟรี
หรือที่ โรงแรมอื่น ๆ ใกล้กับเจดีย์ชูเรโตะ
ในช่วงเดือนเมษายนจะสามารถชมดอกซากุระได้ และในช่วงเดือนพฤศจิกายนจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ

ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko Lake)

ภาพจาก:iStockPhoto
ทะเลสาบคาวากูจิโกะเป็นทะเลสาบ 1 ใน 5 ของทะเลลสาบที่ล้อมรอบภูเข้าไฟฟูจิไว้ค่ะและถือว่าเป็นทะเลสาบที่เดินทางมาท่องเที่ยวได้ง่ายที่สุด จุดที่สามารถชมดอกซากุระที่ดีคือพิพิธภัณฑ์คาวากูจิโกะมิวสิคฟอร์เรส(Kawaguchiko Music Forest) ด้วยสีชมพูของดอกซากุระที่เรียงรายตลอดริมฝั่ง ตัดด้วยสีครามของทะเลสาบ โดยมีฉากหลังคือความยิ่งใหญ่ของภูเขา ทำให้เกิดทัศนียภาพตามธรรมชาติอันงดงามเหมือนภาพฝัน บริเวณโดยรอบจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารหรือแม้แต่พิพิธภัณฑ์ ที่นี่มีกระเช้าลอยฟ้าให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวบรรยากาศจากมุมสูงหรือนั่งรถ Retro bus รถเมล์ที่วิ่งรอบทะเลสาบคาวากูจิเพื่อดื่มด่ำบรรกาศก็ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งเลยค่ะ
อ่านรายละเอียด : โตเกียว ญี่ปุ่น
การเดินทางจากประเทศไทยนั้นมีหลากหลายสายการบินให้บริการค่ะ โดยปลายทางคือเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สำหรับการเดินทางไปยังทะเลสาบคาวากูจิโกะนั้น ทำได้โดยนั่งรถไฟที่สถานี JR Shinjuku สาย Azusa หรือ Kaiji เพื่อไปลงยังสถานี JR Otsuki ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 1,280 เยน หรือ รถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงยังสถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 1,110 เยน
ตั๋วเครื่องบินไปโตเกียว
Ooike Hotel เรียวกัง 3.5 ดาว ใกล้กระเช้าลอยฟ้าภูเขา Kachi Kachi เรียวกังนี้ตั้งอยู่ในฟูจิคาวากูชิโกะ สามารถเดินไปพิพิธภัณฑ์อัญมณียามานาชิ และกระเช้าลอยฟ้าภูเขา Kachi Kachi ได้ใน 15 นาที ส่วนสวนสนุก Fuji-Q Highland และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Itchiku Kubota อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 5 กม. สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมนอกจาก 2 ห้องอาหารแล้ว เรียวกังนี้ยังมีบาร์/เลานจ์ และร้านกาแฟ/คาเฟ่ ที่จอดรถฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ ร้านขายของที่ระลึก/แผงขายหนังสือพิมพ์



Kawaguchiko Hotel โรงแรม 3 ดาว ใกล้กระเช้าลอยฟ้าภูเขา Kachi Kachi โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในฟูจิคาวากูชิโกะ สามารถเดินไปพิพิธภัณฑ์อัญมณียามานาชิ และกระเช้าลอยฟ้าภูเขา Kachi Kachi ได้ใน 15 นาที ส่วนสวนสนุก Fuji-Q Highland และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Itchiku Kubota อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 5 กม. สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องอาหาร, บาร์/เลานจ์ และร้านกาแฟ/คาเฟ่ พร้อมให้บริการ ทางที่พักยังให้บริการที่จอดรถฟรี, WiFi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ และรถรับส่งในพื้นที่ฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ ซาวน่า, พื้นที่จัดการประชุม และอุปกรณ์ซักรีด
หรือที่ โรงแรมอื่น ๆ ใกล้ทะเลสาบคาวากูจิโกะ
ในช่วงเดือนเมษายนจะสามารถชมดอกซากุระได้ และในช่วงเดือนพฤศจิกายนจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
Fuji View Hotel โรงแรม 3.5 ดาว พร้อม4 ห้องอาหาร และสนามกอล์ฟ โรงแรมสำหรับผู้รักกีฬากอล์ฟแห่งนี้ตั้งอยู่ในฟูจิคาวากูชิโกะ ห่างจากศาลเจ้า Fujiomuro Sengen 0.6 กม. และอยู่ภายในระยะ 5 กม. จากกระเช้าลอยฟ้าภูเขา Kachi Kachi และสวนสนุก Fuji-Q Highland ในขณะที่ สวน Koumi และ ศาลเจ้าฮาชิโอจิ อยู่ห่างไปโดยใช้เวลาเดินไม่เกิน 15 นาที สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น 4 ห้องอาหาร, สนามกอล์ฟ และห้องประชุม พร้อมให้บริการ ทางที่พักยังให้บริการ WiFi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ และที่จอดรถฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีบริการซักแห้ง, สวน และร้านขายของที่ระลึก/แผงขายหนังสือพิมพ์
Fujizakura Inn โรงแรมพร้อมที่จอดรถฟรี ใกล้สวนสนุก Fuji-Q Highland โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในฟูจิคาวากูชิโกะ ภายในระยะ 2 กม. จากศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวฟูจิ, สวนสนุก Fuji-Q Highland และกระเช้าลอยฟ้าภูเขา Kachi Kachi ส่วนศาลเจ้า Kitaguchiihongu Fuji Sengen และเจดีย์ 5 ชั้นชูเรโตะ อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 5 กม. สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้มีอุปกรณ์ซักรีด, ที่จอดรถฟรี และWiFi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ