ที่โตเกียวมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย และนี่เป็นตารางการเที่ยว สำหรับ 1 วันฉบับท่องเที่ยวโตเกียวแบบชาวโอตาคุ โดยภายในหนึ่งวันนี้เราสามารถไปเที่ยวได้ 3 สถานที่ค่ะ นั่นก็คือ Sensoji temple โตเกียวสกายทรี และสิ่งที่ห้ามพลาดเลยคือ J-World ที่ทำให้แผนการเที่ยวของเราวันนี้สมบูรณ์ตามแบบฉบับโอตาคุไปอีกวันค่ะ
โปรแกรมโอตาคุทริปวันที่ 1 : Sensoji temple >> Tokyo Sky Tree >> J-world
Sensoji temple (วัดโคมแดงยักษ์)
ขอเริ่มทริปแบบยังไม่โอตาคุก่อนแล้วกันนะคะ ซึ่ง Sensoji temple เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเลย ดูได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากมายมหาศาลกันตั้งแต่ทางเข้าวัดกันเลยทีเดียว การมายังสถานที่แห่งนี้ไม่ยากค่ะ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงที่ Asaksa Station แล้วเดินต่ออีก 600 เมตร หรือประมาณ 10 นาทีค่ะ ก็จะพบเจอกลุ่มคนมากมายที่ยืนแออัดกันตั้งแต่ทางเข้า เพราะต้องการถ่ายรูปคู่กับโคมแดงยักษ์


เมื่อเดินผ่านประตูแรกของ Sensoji temple มาแล้วก็จะพบกับทางเดินที่ตลอดข้างทางเป็นร้านค้าขายของที่ระลึก ขนม และเช่าเสื้อผ้ายูกาตะเพื่อมาสวมใส่ถ่ายรูป และเดินเล่นในวัดค่ะ เมื่อเราเดินสุดเขตร้านค้าเราก็จะเจอทางเข้าอีก ประตูที่สอง ตรงนี้มีลานกว้างมากทำให้หามุมถ่ายรูปแบบไม่ติดคนได้ด้วยนะ (ไม่น่าเสียเวลาตั้งแต่ประตูแรกกันเลย)




ข้างในตัวอาคารของวัดจะพบเจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่ภายในห้องกระจก (ห้ามถ่ายรูปเลยไม่ได้เก็บมาฝากนะคะ) หากอยากแต่งกายแบบย้อยยุคและถ่ายรูปกับวัด Sensoji ก็สามารถเช่าชุดยูกาตะได้จากบริเวณร้านค้าบริเวณวัดค่ะ เพราะเราเห็นกลุ่มคนที่ใส่ชุดยูกาตะมาเดินในวัดแล้วถ่ายรูปกันเป็นกลุ่ม อีกทั้งยังยินดีให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าไปถ่ายรูปได้ด้วยนะ วัดแห่งนี้ใหญ่มากและมีตรอกซอกซอยที่มีร้านอาหารมากมาย แนะนำให้แวะกินกันบริเวณนี้เลย
ฝากท้องกับมื้อเที่ยงที่นี่ (ดูพิดัดได้จากรูปคนใน Google map)


นี่คือร้านที่เราแวะทานมื้อเที่ยงกันค่ะ เพราะเราเดินมาเรื่อยๆ เจอร้านไหนมีเมนูภาษาอังกฤษก็แวะเลยค่า ร้านนี้หน้าร้านเขาแปะไว้เลยว่าร้านนี้มีเมนูภาษาอังกฤษค่ะ รูปหน้าร้านไม่ค่อยชัดเลย สงสัยหิวจนมือสั่น (555) และนี่ก็คือบรรยากาศภายในร้านอาหารค่ะ มีต่างชาติบ้าง และมีคนญี่ปุ่นวัยทำงานมานั่งกินกันค่ะ


เราเอามาเปรียบเทียบให้เห็นกันเลยค่ะว่า สิ่งที่เขาถ่ายรูปลงเล่มเมนูกับสิ่งที่เราได้มาเป็นอย่างไร ถือว่าได้ตามที่หวังไว้ค่ะ อันนี้เราลองสั่งมา 1 อันเพราะในเล่มเมนู จานนี้ถือเป็น Recommend ของร้านค่ะ อร่อย หอมมันปูมาก แต่อย่าปิ้งนานไปนะคะเพราะมันจะไหม้ค่ะ


จานนี้ข้างแกงกระหรี่ทะเล แกงกระหรี่เข้มข้นมากจริงๆ


จานนี้เขาจะให้กาน้ำร้อนๆ มาด้วยค่ะ เพื่อให้เราเติมน้ำซุปลงในจานข้าวราดปลาแซลมอน ปริมาณน้ำที่เติมแล้วแต่ความต้องการเลยค่ะ มื้อนี้อร่อยอีกมื้อค่ะ
อ่านรายละเอียด : โตเกียว ญี่ปุ่น
Tokyo Sky Tree
จากวัด Sensoji temple เราเดินไปอีกประมาณ 1.6 กิโลเมตรเพื่อไปยังเป้าหมายต่อไป นั่นก็คือ Tokyo Sky Tree เป้าหมายของการไปที่นั่นก็เพื่อถ่ายรูป Tokyo Sky Tree เท่านั้นค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วสามารถเดินเก็บภาพได้ในระหว่างทางค่ะ ไม่จำเป็นต้องเดินไปใกล้เพื่อเก็บภาพเลย เราเองอยากจะเดินเพื่อชมบ้านเมืองและเดินรับลมค่ะ สภาพอากาศที่นี่กำลังพอดี ไม่ร้อนไม่หนาว เดินไม่เหนื่อยเลย
การเดินไปนั้นเราใช้ Google Map เป็นเครื่องมือพาเราเดินไปยัง Tokyo Sky Tree ค่ะ“เก็บภาพโตเกียวสกายทรีที่นี่” ระหว่างทางเราก็เจอกับวิวนี้ค่ะ จุดๆนี้สามารถเป็นจุดแวะพักถ่ายรูปได้นะคะ และบริเวณนี้ก็มีห้องน้ำให้เข้าใช้บริการฟรีด้วยค่ะ หลังจากเก็บภาพบริเวณแม่น้ำสายนี้แล้วเราก็เดินไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหมายปลายทาง เวลาที่ใช้เดินทั้งหมดก็เกือบครึ่งชั่วโมง
มาใกล้ๆแล้วถ่ายรูปไม่สวย และหากไม่ใช้เลนส์ Wide ก็ไม่สามารถเก็บได้หมด โชคดีที่เดินเก็บรูปมาตลอดทาง ยิ่งบริเวณแม่น้ำอย่างภาพแรกยิ่งเหมาะแก่การเก็บภาพของโตเกียวสกายทรีนะคะ ที่ตั้งของสกายทรีเป็นห้างสรรพสินค้าเมื่อมาถึงที่นี่ก็สามารถเดินหาอะไรกินได้ หรือจะเดินช้อปปิ้งในนี้ก็ได้เช่นกัน
อ่านรายละเอียด : โตเกียว ญี่ปุ่น
J-World
เลือกมาที่นี่ที่แรกเพราะมีการ์ตูนที่โด่งดังและมีการ์ตูนที่ชื่นชอบมารวมกันอยู่ที่สถานที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น ดราก้อนบอล นารุโตะ วันพีช และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเป็นทั้งหมดล้วนเป็นการ์ตูนที่โด่งดังจากค่าย “JUMP” ค่ะ
ซื้อบัตรผ่านหลังเวลา 5 โมงเย็น เพราะว่าราคาจะลดลงเหลือคนละ 1,800 เยน(ผู้ใหญ่)เท่านั้น
อ่านรายละเอียด : โตเกียว ญี่ปุ่น
การเดินทาง
เวลาเปิดบริการ
ค่าเข้าชม
มีบัตรเข้า 2 ประเภท
– Admission Ticket: ผู้ใหญ่ 800 เยน , เด็ก 600 เยน
– Unlimited Attractions Pass (Passport): ผู้ใหญ่ 2,600 เยน , เด็ก 2,400 เยน
– Night Passport (บัตรราคาถูกหลัง 5 โมงเย็น!): ผู้ใหญ่ 1,800 เยน , เด็ก 1,600 เยน
*ผู้ใหญ่ = อายุ 16 ปีขึ้นไป / เด็ก = อายุ 4 – 15 ปี
เช็คราคาโปรโมชั่นได้จากที่นี่
เราเลือกที่จะซื้อบัตรผ่านหลังเวลา 5 โมงเย็น เพราะว่าราคาจะลดลงเหลือคนละ 1,800 เยน(ผู้ใหญ่)เท่านั้น ตามรูปซื้อบัตรผ่านราคาผู้ใหญ่ 2 ใบจึงราคา 3,600 เยน ราคาปกติคือราคา 2,600 เยน(ผู้ใหญ่) 2,400 เยน(เด็ก) ราคาที่เราซื้อคือสามารถเข้าไปเล่นได้ทุกโซนและทุกสิ่ง กี่รอบก็ได้
มาศึกษากันก่อนค่ะ ที่ J World แบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่ๆ ได้แก่
1) Dragon Ball Area
2) One Piece Area
3) Naruto Area
หากว่าเลือกซื้อบัตรแบบ Admission Ticket เมื่ออยากเข้าไปเล่นตามโซนต่างๆ ข้างใน J World ก็จ่ายเงินเพิ่มตามเรทในตารางช่อง “Usage Charge (JPY)” ส่วนบัตร Unlimited Attractions Pass และ Night Passport ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เข้าได้ทุกโซน เล่นได้ทุกเครื่องเล่น กี่รอบก็ได้ แต่ละโซนจะมีกฏระเบียบแตกต่างกัน อย่างเรื่องส่วนสูง อายุ ลองศึกษากันก่อนจากตารางข้างล่าง
อ่านรายละเอียด : โตเกียว ญี่ปุ่น
One Piece Area
One Piece Area มีกิจกรรมให้เข้าร่วม 3 กิจกรรม ซึ่งไม่สามารถเก็บภาพมาฝากได้ เพราะไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปค่ะ
1) “Soldier Dock” Adventure
2) “Chopper” Quest
3) “Shiro Mokuba” Carousel
โซน One Piece Area มีเครื่องเล่นที่แอบเด็กอยู่บ้างแต่เมื่อลองไปเล่นแล้วสนุกดีนะคะ อย่างไรเสียเราก็ได้เสียเงินมาแล้วเราจึงต้องลองทุกอย่างค่ะ อย่างเช่นนั่งม้าหมุน “Shiro Mokuba” Carousel นั่งเรือยิงทากสื่อสาร “Soldier Dock” Adventure ส่วนที่ยากที่สุดคือ “Chopper” Quest แต่ก็เป็นกิจกรรมที่เราว่าน่ารักที่สุดเลย เพราะเราจะได้สะพายกระเป๋าที่มีช็อปเปอร์โผล่ออกมาจากกระเป๋าไว้ข้างหลังค่ะ ที่ว่ายากก็ยากตรงที่ช็อปเปอร์ในกระเป๋าเราจะพูดใบ้เกมส์อยู่ข้างหลังเป็นภาษาญี่ปุ่น ทำให้เราไม่เข้าใจว่าเกมส์แต่ละด่านนั้นต้องทำอะไรบ้างถึงจะผ่านด่านได้
โซน One Piece Area มีที่ให้ถ่ายรูปมากมายอยู่เหมือนกันเพราะมี Art ตามกำแพงให้เราไปถ่ายรูปด้วยโดยต้องใช้จิตนาการของแต่ละคนแล้วล่ะ ว่าจะโพสท่าอย่างไรกันดี




นอกจากนั้นโซนวันพีชยังมีการยิงปืนใหญ่จากเรือซันนี่ (ไม่มีค่าใช้จ่ายรวมถึงบัตรแบบ Admission Ticket) แถมสามารถเก็บภาพมาฝากได้ด้วย


เราสามารถขึ้นไปบนเรือซันนี่ ด้วยบันไดเพียงไม่กี่ขั้นเท่านั้น ข้างหลังจะมีหน้าจอทีวีขนาดย่อม พร้อมคันโยกอยู่ด้านขวามือของเรา เป้าหมายเพื่อยิงกางเกงในของแฟรงกี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเรือซันนี่
โดยที่เราจะได้ยินเสียงแฟรงกี้พูด(ภาษาญี่ปุ่น) รอเพียงให้แฟรงกี้จะเริ่มนับถอยหลัง เพื่อให้เราเล็ง(ซึ่งก็ไม่ต้องทำอะไรแค่มองในจอตรงหน้าก็พอ) เมื่อสิ้นเสียงแฟรงกี้เราเพียงโยกคันโยกข้างตัวแล้วจะมีเสืองปืนใหญ่ดัง พร้อมลมจะอัดไปยังเป้าหมายตรงหน้าซึ่งเป็นกางเกงในของแฟรงกี้ เราจะมองเห็นจากจอมอนิเตอร์ว่ากางเกงในจะโบกสะบัดเพราะแรงลมจากปืนใหญ่ซันนี่
อ่านรายละเอียด : โตเกียว ญี่ปุ่น
Dragon Ball Area ไปตามล่าดราก้อนบอลกัน
Dragon Ball Area มีด้วยกัน 2 กิจกรรม ซึ่งไม่สามารถเก็บภาพมาฝากได้ เพราะไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปค่ะ
1) Shoot! “Kamehameha”
2) Seek “Dragon Balls”
“ห้ามพลาด – ไปปล่อยพลังคลื่นเต่า และ ตามล่าดราก้อนบอล 7 ลูกกันได้ที่โซนนี้”
Shoot! “Kamehameha”
อย่างแรกเลยแนะนำไปปล่อยลองพลังคลื่นเต่ากันที่ Shoot! “Kamehameha” เราจะเข้าไปอยู่ในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งและสวมแว่นตาสามมิติ จากนั้นเราจะเห็นว่าโงกุน (ชื่อพระเอกของเรื่อง) จะยืนอยู่เยื้องๆ ตรงหน้าเรา และพาเราไปปล่อยพลังคลื่นเต่าเพื่อกำจัดฟรีสเซอร์ แบบร่วมกันสู้รบเพราะฟรีสเซอร์เก่งขั้นเทพ (ไม่มีภาพมาฝากเพราะห้ามถ่าย) ดูภาพประกอบได้จากภาพจากโบชัวร์ข้างบนได้ค่ะ
Seek “Dragon Balls”
ต่อจากนั้นไปตามล่าดราก้อนบอลทั้ง 7 ลูกกัน เขาจะแจกเครื่องดราก้อนเรดาร์ให้คนละเครื่อง พร้อมคู่มือการใช้งานเป็นภาษาอังกฤษ โดยต้องห้อยคอไว้ (ซึ่งไม่ได้เปิดดูเลยล่ะ แต่ต้องห้อยไว้ตามกฏเขา) เมื่อเราได้มาแล้วเครื่องดราก้อนเรดาร์ก็เริ่มทำงานมีแสงสีเขียวกระพริบๆ เหมือนในการ์ตูนเลย


เราก็วิ่งวนไปให้ทั่วๆ โซนนี้แล้วก็ทำภาระกิจต่างๆ ตามแต่ละจุด ภารกิจก็คือเล่นเกมส์ไขปริศนา โดยที่หน้าจอในแต่ละจุดจะพูดอะไรมาสักอย่างซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น เราก็ต้องกดปุ่มอะไรสักอย่างตรงหน้าเราเพื่อแก้ไขปริศนาค่ะ ไม่รู้เดาเก่งหรืออย่างไร ทำให้เราสามารถตามเก็บดราก้อนบอลทั้ง 7 ลูก และเราก็มีโอกาสได้รับพรจากมังกร โดยที่เราจะได้เห็นฉากอันทรงพลัง อลังการ มีทั้งฟ้าร้อง มังกรบิน และได้ขอพรจากมังกร ไม่สามารถเก็บรูปมาให้ชมกันได้ แต่สามารถดูภาพประกอบได้จากภาพจากโบชัวร์ข้างบนได้ค่ะ
นอกจากกิจกรรมแล้วยังมีที่ให้ถ่ายรูปมากมายเลย สนุกดีเพราะเหมือนกับว่าเราได้เข้าไปเป็นหนึ่งในฉากบางฉากของการ์ตูนดราก้อนบอลเลยล่ะ


อ่านรายละเอียด : โตเกียว ญี่ปุ่น
โซนอื่นๆ
เวลาไม่เพียงพอจึงเที่ยวไม่ครบ พลาดไม่ได้ไป Naruto Area จากโบชัวร์โซน Naruto Area มีกิจกรรมเพียงหนึ่งอย่างเท่านั้น ไม่ได้ไปจึงไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นอย่างไรค่ะ ดูรายละเอียดจากภาพข้างล่างเลยค่ะ
เราเก็บภาพจากโซนอื่นๆ มาฝาก จากที่เห็นในนี้มีการ์ตูนหลายเรื่องที่เราไม่รู้จักค่ะ


อ่านรายละเอียด : โตเกียว ญี่ปุ่น
โซนอาหาร หิวเมื่อไหร่ก็แวะ


อ่านรายละเอียด : โตเกียว ญี่ปุ่น
การเดินทาง
เที่ยวรอบกรุงโตเกียวในแบบฉบับโอตาคุกันต่อที่
1. Fujiko · F · Fujio Museum + Lunch >> Shibuya cross
2. Tokyo Tower & One Piece Tokyo Tower
3. โตเกียว ดิสนีย์ ซี