เที่ยวชมเมืองโบราณเฟิ่งหวง ณ เมืองฉางซา 5 วัน
เฟิงหวง เมืองโบราณแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของมณฑลหูหนาน ชื่อเมืองแปลว่า นกหงส์ อยู่ทางภาคตะวันตกของมณฑลหูหนาน สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง ภูมิประเทศเป็นภูเขาและทุ่งนาข้าวล้อมรอบ อยู่บริเวณเชิงเขาและมีแม่น้ำถัวเจียงไหลผ่านมีสะพานหงเฉียวเป็นทางเชื่อม มีถนนที่ปูด้วยหินเขียว มีกำแพงเมืองโบราณตั้งอยู่ริมน้ำ ประชากรมีประมาณ 3 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าถู่เจียและชาวม้ง
ณ เมืองฉางซา
วันที่ 1
เมื่อเดินออกมาจากต.ม.แล้ว ก็เลี้ยวขวามองหาเคาท์เตอร์ที่ขายตั๋วรถโดยสารแอร์พอร์ตบัส ซึ่งเคาท์เตอร์นี้จะตั้งอยู่ใกล้ๆประตูที่ 5 มีหลากเส้นทางให้เลือกไปกัน ใครที่อยากจะตรงไปจางเจี๋ยเจี้ย หรืออู่หลิงหยวน หรือเมืองโบราณเฟิ่งหวงเลย ก็ซื้อตั๋วรถบัสไปสถานีรถบัสตะวันออก ChangSha West Bus Station 汽车西站 (ซี้ เชอ จ้าน) ค่ารถ 28.50 หยวนครับ
ทริปนี้ของผมไม่รีบร้อนครับ จึงเลือกที่จะขอนอนพักก่อนซัก 1 คืน แล้วค่อยออกเดินทางไปเมืองโบราณพรุ่งนี้กันครับ เพราะใช้เวลาร่วม 6 ชั่วโมงกว่าจะถึงจุดหมายไปถึงก็คงยังไม่ได้เที่ยวดูอะไรก็มืดค่ำแล้วครับ เดินทางไปพรุ่งนี้ตอนเช้ากว่าจะถึงเมืองโบราณก็เป็นเวลาบ่ายๆแล้วครับ ทำให้รู้สึกว่ามีเวลาเดินเที่ยวเยอะหน่อยครับ
ใช้เวลาในการเดินทางออกจากสถานบินมายัง civil aviation hotel 40 นาทีครับ คืนนี้ขอนอนพักเอาแรงก่อนที่ Changsha Mellow Orange Hotel เป็นโรงแรมที่น่านอนครับ ราคาไม่แพง มีอาหารเช้าด้วย
Changsha Mellow Orange Hotel
พอดีว่าเจอโรงแรม Changsha Mellow Orange Hotel นี้ในราคา 1,169 บาท พร้อมทั้งยังมีอาหารเช้าด้วยครับ
รู้หรือเปล่า? ว่า Expedia ให้เราสามารถเลือกที่จะยังไม่ต้องจ่ายเงินตอนจองได้ครับ หรือที่เขาเรียกกันว่า “จองก่อน จ่ายทีหลัง” จองก่อนตอนนี้ก่อน ตอนเราไปถึงโรงแรมค่อยไปจ่ายเองกับเคาท์เตอร์โรงแรม ข้อดีของการจ่ายเงินตอนเช็คอินเพราะบางครั้งเราอาจมีเหตุจำเป็น และต้องมีการเปลี่ยนแปลงการเดินทางของเรา เมื่อใดที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนั้นขึ้นมาคุณก็สามารถยกเลิกได้ฟรีเลย ทางเวปไซด์หรือทางโรงแรมจะไม่เก็บเรียกค่าใช้จ่ายๆใดเพิ่มเติมครับ ก็สะดวกดี
จองเสร็จจะได้รับการยืนยันการจองตามนี้ ในนี้เขียนว่าไม่มีอาหารเช้า ไม่ต้องกลัวครับโรงแรมนี้เขาใจดีครับให้อาหารเช้าแขกเข้าพักทุกห้อง เมื่อตอนที่เราเช็คอินเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่โรงแรมก็จะให้คูปองอาหารเช้ามา 2 ใบ/วัน คำแนะนำนะครับว่าต้องตื่นมาทานก่อน 9 โมงเช้าเพราะที่นี่เขาเก็บครัวกันเร็วมากครับ
จากหน้าโรงแรม Civil Aviation Hotel ให้เดินไปทางสถานีรถไฟใต้ดินครับ ระหว่างทางเราจะเจอโรงแรม Changsha Mellow Orange Hotel ก่อนครับ เดินไปเพียงนิดเดียวครับ
สิ่งแรกที่เห็นเลยคือ ห้องกว้างสะอาดสะอ้านดี ทีวีแอบเล็กเมื่อเทียบกับขนาดของห้องและขนาดของเตียงครับ เตียงแข็งไปหน่อย ความสะอาดของห้องน้ำผ่านครับ ใช้ได้เลยทีเดียวครับกับราคาขนาดนี้นะ โดยรวมผมให้ผ่านครับ เมื่อสำรวจห้องและเก็บข้าวของเป็นอันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาหาของกินกันครับ
เดินออกมาจากโรงแรมเลี้ยวขวาเดินมานิดหน่อยก็เจอ มื้อเย็นนี้ผมขอฝากท้องไว้ที่ร้านนี้แล้วกันครับ เพราะเห็นว่ามีคนทานกันเยอะน่าจะมีไรดีๆบ้างล่ะ
ไฮโซครับ เมนูมาเป็นไอแพ็ดเลย ปลาทั้งตัว 39 หยวนเอง
เสี่ยวหลงเปา 10 หยวน มื้อนี้ 3 จานก็ตก 110 หยวนครับ อิ่มแล้วก็เดินเล่นแถวนี้เพราะบริเวณนี้มีห้างเยอะแยะครับ ไม่ได้อยู่ดึกมาก เพราะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นมาทานอาหารเช้าของโรงแรม ก่อนที่อาหารจะหมดลงก่อนเวลา 9 โมงเช้าครับ และเตรียมเดินทางต่อไปยังเมืองโบราณเฟิ่งหวงเที่ยวรถออกตอน 10 โมงเช้า
วันที่ 2
อาหารเช้าของโรงแรมนี้ก็จีนกันสุดๆ รสชาติก็จีนๆครับพอทานได้ของฟรีนี่ครับ หลังทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็เตรียมพร้อมไปเมืองโบราณเฟิ่งหวงกันครับ
Long Distance Bus Station
ขึ้นรถที่ท่ารถบัสใกล้ๆโรงแรมครับ ชื่อท่ารถหรือสถานนีรถ คือ Long Distance Bus Station 長途汽車站 (ฉางจูชีเชอร์จั้น) จะใช้เวลาร่วม 6 ชั่วโมง ด้วยระยะทางทั้งสิ้น 400 กว่ากิโล เดินออกจากโรงแรมไปไม่ไกลครับดูในแผนที่เลยครับ ค่ารถตกคนละ 158 หยวน
น่าจะมีรถออกทุกชั่วโมงจนถึงบ่ายสองนะครับ เราซื้อตั๋วเที่ยว 10 โมงเช้าครับ การหาเบาะตามเบอร์นั้นไม่ยากครับ เขาจะติดเบอร์ใหญ๋บอกเลขที่นั่งไว้ที่เพดานรถตำแหน่งจะอยูเบาะทุกๆเบาะครับ 6 ชั่วโมงที่เดินทางไม่ต้องกลัวเรื่องห้องน้ำนะครับบนรถมีห้องน้ำให้บริการด้วย และระหว่างทางก็มีการแวะกลางทางครั้งนึง เหมือนนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพไปขอนแก่นอย่างไรอย่างนั้นครับ เมื่อถึงสถานนีปลายทางคือท่ารถเมืองโบราณเฟิ่งหวงแล้ว เราได้ทำจองตั๋วสำหรับเที่ยวกลับในวันพรุ่งนี้ไว้เป็นที่เรียบร้อยครับ โดยเลือกเที่ยวรถเวลา 12.30 น. ค่ารถตกคนละ 140 หยวน
เพิ่มเติมนิดนึงครับ: สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการไปเที่ยวอู่หลิงหยวน ก็สามารถไปจากตรงนี้ได้เลย ใช้เวลาบนรถบัสประมาณ 5 ช.ม.
การเดินทางออกจากท่ารถเพื่อเดินทางไปยังโรงแรมมีเพียงทางเดียวคือ ต้องเหมารถแท๊กซี่ไปยังโรงแรม 20 หยวน แท๊กซี่ที่นี่ไม่ยอมเปิดมิเตอร์ คิดราคาเหมาอย่างเดียว
สำหรับคืนนี้ก็ค้างคืนที่ Fenghuang ครับ มีหลายโรงแรม หลายราคาครับ เมื่อเช็คอินที่โรงแรมเรียบร้อยเราก็หาของอร่อยกันครับ
ดูราคาโรงแรมทั้งหมดใน Fenghuang
บังเอิญอ่านรีวิวมา แล้วเห็นคนบอกว่าห้องอาหารที่นี่อร่อย เลยจัดตามเขาครับไม่ต้องคิดไรมากลองตามๆกัน สำหรับคนที่ชอบทานอาหารรสชาติเผ็ดแบบร้อนแรงแนะนำที่นี่ครับ เพราะอาหารเผ็ดมาก รสเผ็ดนี่โดดเด่นมากครับ หารสชาติอื่นๆไม่เจอเลย
แต่ที่นี่ต้องยกนิ้วให้เรื่องของวิวทิวทัศน์อันนี้เพลินมาก และราคาไม่แพงครับ ใกล้ๆกันยังมีบริการล่องเรือด้วย ไม่รู้ว่าคนเท่าไหร่ถ้าจะนั่งเรือ เสียดายจังที่เวลาของเราไม่พอ
บรรยากาศเมืองโบราณเฟิ่งหวง
หลังจากกินอิ่มเป็นที่เรียบร้อย ก็ออกไปเดินเที่ยวชมความงามของเมืองเพื่อดับร้อนกันครับ ถนนในเมืองโบราณที่ไม่ได้อยู่บริเวณริมแม่น้ำ มีร้านอาหาร ผับ บาร์ เยอะแยะเลยครับแต่ราคาแอบแพงทีเดียว
เดินเล่นในเมืองสักพักพอฟ้าเริ่มมืด เราก็เดินกลับมาบริเวณริมแม่น้ำอีกครั้งเพื่อมาดูแสงสียามค่ำคืนครับ บอกเลยว่าฟินสุดๆทั้งแสงสีและเสียงเพลงตามผับต่างๆที่อยู่ริมแม่น้ำ เลยอดใจไม่ไหว แวะไปจิบเครื่องดื่มมาร้านนึง ชิวครับแต่ราคาแพงเกินไป ได้พยายามตะเวนหาร้านอื่นๆที่ไม่ได้ติดริมแม่น้ำดูแล้วก็ยังแพงพอๆกันเลยครับ
วันที่ 3
วันนี้ก็ได้เดินรอบเมืองเหมือนเดิมในยามเช้าครับ เมืองนี้เป็นเมืองโบราณที่ใหญ่มาก คงต้องใช้เวลา 2 วันจึงจะสามารถลัดเลาะได้อย่างทั่วถึงทุกซอกทุกซอยครับ แนะนำว่าใครจะมาก็ควรใช้เวลาที่นี่สัก 2 คืนนะครับ และช่วงเวลาที่แนะนำเลยก็คือหน้าหนาว คงจะฟินกว่านี้มากครับ หลังจากนั้นก็ให้ทางโรงแรมเรียกแท๊กซี่มารับไปส่งยังท่ารถ เพราะถ้าไปยืนรอเรียกรถเองกลัวว่าจะนานเกิน เหมือนเดิมครับค่ารถแท๊กซี่ก็เหมาเหมือนเมื่อวานครับ 20 หยวน
ใครยังไม่ได้ซื้อตั๋วก็ซื้อตรงนี้กันนะ ผมซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับไปรอเวลาอย่างเดียวครับ นั่งหลับบนรถบัสไปซัก 5 ชั่วโมงกว่าก็กลับมาเมืองฉางซา
พอรถจอดที่เมืองฉางซาท้องเราก็ร้องทันที เลยแวะทานที่ร้านนี้ครับเพราะว่าร้านอยู่ตรงข้ามโรงแรมเลยครับ มองไปตรงข้ามเห็นโรงแรมที่เราพักเมื่อคืนแรก ร้านนี้เขาขายอาหารกวางตุ้งที่รสชาติเหมือนฮ่องกงเลย ข้าวหน้าห่านย่างและหมูแดง อร่อยสไตล์ฮ่องกง(รสชาติเขาจะแพ้ฮ่องกงนิดหน่อยแต่ถูกกว่ามากครับ) อีกจานเป็นไก่ต้มที่รสชาติอร่อยเหมือนฮ่องกงเป้ะ หลังจากนั้นเช็คอินที่ Changsha Mellow Orange Hotel
ถนนคนเดินฮวงซิงลู่ (Huangxing Road Walking Street)
วันนี้เราวางแผนจะไปเที่ยวถนนคนเดินฮวงซิงลู่ (Huangxing Road Walking Street (黄兴路)) โดยลงรถไฟใต้ดินหน้าโรงแรมเราไปยังสถานีอู่อีสแควร์ (Wuwi Square) ให้เดินออกที่ทางออก 3A เมื่ออกมาจะเจอกับถนนคนเดินเลยครับที่นี่ของกินเพียบ
วันที่ 4
เกาะส้ม
จุดหมายแรกของวันนี้คือเกาะส้มครับ ไปดูรูปปั้นประธานเหมา โดยนั่งรถไฟใต้ดินจากหน้าโรงแรมไปลงสถานี Juzizhou ก็ถึงเลย แนะนำว่าให้ซื้อตั๋วรถพาทัวร์ครับ เขาจะพาทัวร์ชมรอบๆสถานที่อย่างทั่วถึง หากไม่ต้องการบริการรถพาทัวร์ก็ต้องเดินร่วม 5 กิโลเลยครัย ค่ารถคนละ 20 หยวน รถจะมีจอดแวะหลายจุดที่สำคัญครับไม่ตกหล่นแน่นอน เมื่อเราแวะสถานที่นั้นๆแล้วก็สามารถรอขึ้นรถขบวนใหม่ได้ตามจุดต่างๆ
จะเห็นได้จากแผนที่เกาะส้มว่าใหญ่มากครับ ครั้งนี้เราตั้งใจว่าจะมาดูรูปปั้นประธานเหมาครับ เลยนั่งรถดิ่งตรงไปเลย พอดีเห็นต้นส้มเยอะมากไม่รู้ว่านี่เป็นสาเหตุที่เขาตั้งชื่อเกาะนี้ว่าเกาะส้มหรือเปล่า
ร้าน Huogongdian (หั่วกงเตี้ยน)
ไม่ไกลจากเกาะส้มมีร้านอาหารอร่อยเก่าแก่โบราณ และดังมากเพราะเป็นร้านโปรดของประธานเหมา เป็นเหตให้ผมต้องตามไปชิมครับ ชื่อร้าน Huogongdian หรือศาลเจ้าไฟ เรานั่งรถไฟใต้ดินจากสถานนี Juzizhou (เกาะส้ม) ไปลงสถานี Wuwi Square เดินไปทางออก 3A เหมือนเมื่อคืนอีกครั้งครับ เดินไปประมาณ 850 เมตร ไปกินเต้าหู้เหม็นกันครับ อร่อยมากและไม่เหม็นเหมือนชื่อนะครับ อร่อยคุ้มค่าราคาไม่แพง
สุสานหม่าหวังตุย (Mawangdui Han Tombs)
เอาแผนที่นี้ให้แท๊กซี่ดูเลยครับ ตัวสุสานจะอยู่ในโรงพยาบาลให้เดินเข้าไปในรั้วโรงพยาบาลก่อนแล้วค่อยเลี้ยวไปทางซ้ายมือ ไม่ไกลครับเราก็เจอป้ายเพื่อให้เราเดินขึ้นเนินไปอีก 50 เมตร
ซื้อตั๋วเข้าชมสุสานกันคนละ 2 หยวนเท่านั้นครับ ภายในก็ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไหร่เลย
West Lake Restaurant หรือ Xihulou ซีหูเหลา
เค้าว่ากันว่าเป็นภัตตาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้รับการบันทึกลงในกินเนสบุ๊คมาแล้วครับ ใหญ่ขนาดรองรับแขกได้ถึง 5,000 คนต่อคืนเลยนะครับ เลยทำให้เราต้องแวะมาชิมให้ได้ซักครั้ง เรียกแท๊กซี่มาส่งเลยครับ ตัวร้านอาหารนั้นยิ่งใหญ่สมคำร่ำลือจริงๆ
เห็นสถานที่แล้วหลายๆคนอาจคิดว่าแพง ถ้ารู้จักเลือกรู้จักมองขอบอกว่าอาหารไม่ได้แพงอย่างที่คิดนะครับ ทั้งหมดที่กินในวันนี้ค่าเสียหายเกือบ 2,000 บาทครับ หากอยากได้อาหารดีๆที่นี่ก็ต้องมีอยู่แล้วนั่นก็คือ “ชุดอาหารฮ่องเต้” ชุดนึงก็หลายหมื่นเลยจ้า
ชิงช้าสวรรค์ฉางซา (Changsha Ferris wheel)
อิ่มท้องกันแล้วเราก็ไปขึ้นชิงช้าสวรรค์ฉางซากันครับ สถานที่ก็อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากเท่าไหร่ ทางขึ้นชิงช้าต้องเข้าไปในตึก Sea Holic ก่อนครับ แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นบนสุดของตึก ค่าขึ้นก็คนละ 50 หยวน ไม่แพงครับได้ชมเมืองฉางซาแบบ 360 องศาในยามค่ำคืน
วันที่ 5
วันสุดท้ายแล้ว วันนี้เดินทางกลับบ้านแล้ว หลังเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมก็เดินไปท่ารถที่เรามาในวันแรก เพื่อขึ้นรถแอร์พอร์ตบัสกลับไปยังสนามบิน ขากลับราคาก็ 15.5 หยวน
ค้นหาตั๋วเครื่องบินไปเมืองฉางซา
อ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับ จัดทริปเที่ยวเอง
ปีใหม่แบบนี้ใครกำลังรู้สึกอยากจะออกเดินทาง เอ็กซ์พีเดียขอแนะนำการเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองแบบชิค ๆ ด้วยการนั่งรถไฟ หลายคนอาจสงสัยว่าทำได้จริง ๆ หรือ? นั่งรถไฟข้ามประเทศ อยากจะบอกว่าทำได้จริง! แถมการนั่งรถไฟไปสิงคโปร์ยังเป็นการเดินทางรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ ได้ชมวิวทิวทัศน์สองข้างทาง ได้ลิ้มรสชาติของการเดินทางจริง ๆ แน่นอน ใครอยากรู้ว่าเดินทางยังไงก็รีบตามเอ็กซ์พีเดียมาอ่านกันทางนี้เลยดีกว่า...
ไต้หวันคือประเทศที่เหมาะกับการเที่ยวเองโดยไม่ต้องง้อทัวร์เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการคมนาคมที่สะดวกสบาย ในเมืองไทเปก็มีรถไฟฟ้า MRT รอบเมือง เส้นทางรถไฟฟ้าไม่ซับซ้อน สามารถเดินทางไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ได้ง่ายมาก แถมการใช้จ่ายก็สะดวก ค่าเงินพอๆ กับประเทศไทย วัฒนธรรมก็เป็นไปในแบบที่คนไทยคุ้นเคย มีความเป็นจีนผสมญี่ปุ่นเล็กๆ กลายเป็นเสน่ห์ของประเทศที่ควรค่าแก่การไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง หากเพื่อนๆ...
วันนี้เอ็กซ์พีเดียขอเอาใจเพื่อนๆ ที่ชอบเที่ยวธรรมชาติและชอบถ่ายรูปสวยๆ ด้วยการมาชี้พิกัด 7 ที่เที่ยวธรรมชาติ สามารถชมวิวทุ่งนาสวยๆ กันได้ บอกเลยว่าแต่ละที่ที่เราคัดมาให้นั้นบรรยากาศดี มีอากาศบริสุทธิ์ให้สูดเข้าปอดกันด้วยล่ะ เพราะเราชื่อว่าทุ่งนาในเมืองไทยนั้นเป็นเอกลักษณ์ของประเทศเรา แถมยังสามารถทำกิจกรรมได้หลายอย่าง ซึ่ง 7 ที่เที่ยวในไทยที่สามารถชมวิวทุ่งนาสวยๆ กันได้จะมีที่ไหนบ้าง...
ต้องบอกเลยว่าเอ็กซ์พีเดียแนะนำที่เที่ยวดีๆ ร้านอาหารอร่อยๆ มามากมาย คราวนี้เราขอเอาใจสาวโสดกันบ้าง โดยเฉพาะสาวโสดที่รักการเดินท่องเที่ยวและมีสเปคหนุ่มเป็นชาวต่างชาติ เพราะเอ็กซ์พีเดียจะมาแนะนำ 10 ประเทศที่สาวโสดไม่ควรพลาดไปเช็คอิน เผื่องานนี้จะได้ลงจากคานสละโสดเหมือนคู่อื่นๆ บ้าง ดังนั้นสาวโสดทั้งหลายอย่ารอช้า! รีบตามเอ็กซ์พีเดียไปดูกันว่ามีประเทศไหนน่าไปแล้วจะได้รีบจองตั๋วไปตามหาเนื้อคู่กัน 10 ประเทศที่สาวโสดต้องไป เผื่อได้ลงจากคาน...
ไต้หวันคือประเทศที่เหมาะกับการเที่ยวเองโดยไม่ต้องง้อทัวร์เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการคมนาคมที่สะดวกสบาย ในเมืองไทเปก็มีรถไฟฟ้า MRT รอบเมือง เส้นทางรถไฟฟ้าไม่ซับซ้อน สามารถเดินทางไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ได้ง่ายมาก แถมการใช้จ่ายก็สะดวก ค่าเงินพอๆ กับประเทศไทย วัฒนธรรมก็เป็นไปในแบบที่คนไทยคุ้นเคย มีความเป็นจีนผสมญี่ปุ่นเล็กๆ กลายเป็นเสน่ห์ของประเทศที่ควรค่าแก่การไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง หากเพื่อนๆ...