ไหน? ใครอยากไปเที่ยวออสเตรเลียยกมือขึ้น? รับรองว่าถ้าถามแบบนี้ออกไปต้องเห็นคนยกมือกันตรึม เพราะว่าออสเตรเลียนั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ไม่ไกลจากประเทศไทย มีหลายสายการบินที่บินตรงใช้เวลาบินเพียง 9 ชั่วโมง แถมยังมีภูมิประเทศหลากหลาย มีแต่สิ่งที่น่าสนใจ หากชอบทะเลก็มีทะเลและชายหาดที่สวยติดอันดับโลก จะเป็นทะเลทราย เป็นป่าเขา หรือชอบเที่ยวเมืองใหญ่ออสเตรเลียก็มีให้เที่ยวหมดทุกอย่าง แต่หากใครอยากไปเที่ยวออสเตรเลียอาจต้องมีการขอวีซ่าออสเตรเลียกันซักหน่อย ซึ่ง Expedia เลยมาแนะนำวิธีการรวมไปถึงรายละเอียดการขอวีซ่าออสเตรเลีย จะได้เตรียมตัวกันให้พร้อม วีซ่าผ่านฉลุย พร้อมลุยแดนจิงโจ้!
ภาพจาก : iStockPhoto
ประเภทวีซ่าออสเตรเลีย
วีซ่าท่องเที่ยว (1419) | วีซ่าออสเตรเลียสำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจ (1415) |
---|---|
อธิบายง่ายๆ คือเที่ยวอย่างเดียว จะไปเดินชมนกชมไม้ชมเมือง ดำน้ำดูปะการัง อาบแดดที่ชายหาด อะไรก็ตามที่ไม่มีการทำงาน การฟังสัมมนา การดูงานเข้าข้องเกี่ยว ไปเที่ยวล้วนๆ ก็ให้เลือกขอวีซ่า 1419 | เป็นวีซ่าสำหรับการไปทำงานรวมไปถึงการดูงาน เข้าสัมนา อบรม ประชุม จะ 30 นาที 1 ชั่วโมง ก็ต้องขอเป็นวีซ่าประเภท 1415 เท่านั้น หากขอผิดประเภทระวังโดนปฏิเสธวีซ่านะ |
ค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่าออสเตรเลีย
รายการ | ค่าธรรมเนียม (บาท) |
---|---|
ค่าธรรมเนียมใบสมัคร |
3,800 |
การยื่นใบสมัครพร้อมทำไบโอเมตทริกซ์ |
883 |
การทำไบโอเมตทริกซ์เท่านั้น (สำหรับผู้สมัครที่ไม่ได้ยื่นผ่าน VFS) |
839 |
* VFS = ศูนย์รับยื่นวีซ่าของออสเตรเลีย
เอกสารประกอบใบสมัครวีซ่าออสเตรลีย
1.ฟอร์มวีซ่า
2.ใบชำระค่าธรรมเนียม
3.สำเนาหนังสือเดินทางที่ชัดเจน มีอายุเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
4.รูปถ่ายแบบใช้ในราชการ 1 รูป (ขนาด 45 mm x 35 mm) เขียนชื่อไว้ด้านหลัง
5.สำเนาบัตรประชาชน
6.สำเนาทะเบียนบ้าน
7.หลักฐานทางการเงิน เช่น สมุดบัญชีเงินฝากตัวจริงพร้อมสำเนาที่มีการเดินรายการ 6 เดือนย้อนหลัง
1.หลักฐานการทำงานหรือหลักฐานแสดงความสัมพันธ์กับถิ่นฐาน เพื่อยืนยันกับทางสถานทูตว่าเราจะไม่หนีแน่นอน
2.หากเดินทางไปเยี่ยมญาติหรือเดินทางกับญาติให้แสดงเอกสารยืนยัน เช่น ทะเบียนบ้าน สูติบัตร
3.หากมีผู้สนับสนุนการเดินทางให้แสดงหลักฐานของผู้สนับสนุนด้วย เช่น จดหมาย อีเมล์ รูปถ่าย หลักฐานการโอนเงิน
4.หากอายุต่ำกว่า 18 ปีและเดินทางโดยไม่มีผู้ปกครองต้องมีเอกสารยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ หรือกรอกฟอร์ม 1229
ช่องทางการสมัคร
1.ส่งไปรษณีย์ตรงไปยังสถานทูต
-
- เนื่องจากเราไม่สามารถเข้าไปที่สถานทูตออสเตรเลียได้โดยตรง จึงต้องส่งเอกสารผ่านทางไปรษณีย์ กรอกและแนบเอกสารตามปกติ จากนั้นไปที่ไปรษณีย์ ซื้อเช็คสั่งจ่ายสถานทูตและรอการติดต่อกลับให้ไปเก็บข้อมูลไบโอเมตทริกซ์ หรือการสแกนลายนิ้วมือกับถ่ายรูปใบหน้าที่ศูนย์ VFS ใช้เวลาประมาณ 30 วันทำการ
2.ยื่นเรื่องออนไลน์
การยื่นเรื่องออนไลน์นั้นต้องสมัคร Immiaccount ก่อน จากนั้นจึงจะสามารถเข้าไปกรอกข้อมูลยื่นวีซ่าได้ เมื่อสมัครออนไลน์เสร็จให้รอรับจดหมายแจ้งให้ไปเก็บข้อมูลไบโอเมตทริกซ์ หรือการสแกนลายนิ้วมือกับถ่ายรูปใบหน้าที่ศูนย์ VFS ใช้เวลาประมาณ 30 วันทำการ
3.ยื่นผ่าน VFS
หรือยื่นผ่านศูนย์รับยื่นวีซ่าของออสเตรเลีย สามารถทำไบโอเมตทริกซ์หรือเรียกง่ายๆ ว่าสแกนลายนิ้วมือและถ่ายรูปใบหน้าได้เลย โดย VFS นั้นไม่ได้เป็นคนพิจารณาวีซ่าให้เราแต่อย่างใด แค่เป็นศูนย์กลางในการรับยื่นวีซ่าให้กับสถานฑูตต่อไปเท่านั้น โดยการยื่นผ่าน VFS นั้นเร็วที่สุด ใช้เวลาเพียง 10 วันทำการ
4.ยื่นผ่านเอเจนซี่
การยื่นผ่านเอเจนซี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีผู้เชี่ยวชาญช่วยดูเรื่องเอกสาร หากใครไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ไม่รู้จะไปที่ใดก็สามารถเข้าไปปรึกษาและใช้บริการกับเอเจนซี่ได้เลย (อย่างไรก็ตามต้องเดินทางไปเก็บข้อมูลไบโอเมตทริกซ์ด้วยตัวเองที่ VFS อยู่ดี) โดยค่าบริการเอเจนซี่นั้นก็มีหลายราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหมื่น
ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องการขอวีซ่าออสเตรเลียแล้ว ลองมาดูกันบ้างดีกว่าว่าที่ออสเตรเลียมีอะไรให้เราไปเที่ยวกันบ้าง โดย Expedia ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวออสเตรเลียและกิจกรรมน่าสนใจต่างๆ 5 ที่ด้วยกัน รับรองว่าถ้าเห็นแล้วจะต้องรีบพุ่งไปขอวีซ่า จองตั๋วเครื่องบิน จองที่พักกันเลยทีเดียว!
เดินเล่นในตัวเมืองซิดนีย์
ภาพจาก : iStockPhoto
สถานที่ท่องเที่ยวออสเตรเลียที่แรกที่อยากแนะนำ ได้แก่ เมืองซิดนีย์ ซิดนีย์ไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศออสเตรเลีย แต่ซิดนีย์เป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงินและเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ มีที่เที่ยวสำคัญมากมายไม่ว่าจะเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของออสเตรเลียอย่างโรงอุปรากรซิดนีย์ (Sydney Opera House) สะพานซิดนีย์ฮาเบอร์ (Sydney Harbour Bridge) หรือจะไปเดินเล่นย่านเดอะร็อคส์ (The Rocks) ย่านชุมชนเมืองเก่าของชาวยุโรปยุคแรกๆ ที่ย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศออสเตรเลียก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ซิดนีย์ยังได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่สวยงามน่าอยู่ที่สุดในโลกหลายปีซ้อน แต่หากอยากรู้ว่าเพราะอะไรเพื่อนๆ คงต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วละ
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
ไปเที่ยวหาดบอนได ใกล้ซิดนีย์
(Bondi Beach)
ภาพจาก : iStockPhoto
ชายหาดบอนไดเป็นที่นิยมอย่างมากของชาวซิดนีย์ และผู้คนที่มาท่องเที่ยวออสเตรเลีย เพราะนั่งรถออกไปไม่ถึงชั่วโมงก็ได้เจอกับชายหาดสีขาวน้ำทะเลสีฟ้าสวยงาม ที่พบได้บ่อยๆ บนโปสการ์ดท่องเที่ยวออสเตรเลีย เพื่อนๆ สามารถไปเที่ยวทำกิจกรรมน่าสนใจได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำ นอนอาบแดด เล่นกีฬาชายหาด หรือจะลองไปเล่นเซิร์ฟบอร์ดโต้คลื่น กิจกรรมยอดนิยมตามแนวชายหาดของออสเตรเลียก็ได้ แถมบางช่วงยังมีกิจกรรมน่าสนใจอย่างคอนเสิร์ตหรือวิ่งมาราธอนอีกด้วย
และสิ่งที่พลาดไม่ได้หากมาหาดบอนไดคือการว่ายน้ำที่ไอซ์เบิร์ก คลับ ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำชื่อดังที่ตั้งอยู่ริมชายหาดบอนได เพื่อนๆ อาจเคยเห็นรูปสระว่ายน้ำที่มีน้ำทะเลสาดเข้ามาจากอินเทอร์เน็ต สถานที่นั้นก็คือไอ์เบิร์ก คลับชื่อดังนี่แหละ หากใครไม่อยากว่ายน้ำก็สามารถมานั่งรับประทานอาหารหรือขนมก็ได้เช่นเดียวกัน
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
ขับรถบนถนนที่สวยสุด คลาสสิคที่สุดในโลก
ที่เกรทโอเชี่ยนโรด (Great Ocean Road) เมลเบิร์น
ภาพจาก : iStockPhoto
เกรทโอเชียนโรด เป็นถนนที่สวยคลาสสิคที่สุดในโลก โดยเพื่อนๆ จะได้ขับรถเลียบชายฝั่งทางตอนใต้ของเมลเบิร์น ซึ่งใครๆ ก็ต่างบอกว่าเป็นเส้นทางที่โรแมนติกและสวยงามที่สุดในแนวชายฝั่งทะเลออสเตรเลีย ระยะทางของเกรทโอเชียนโรดนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 100 กิโลเมตร มีจุดชมวิวเด่นๆ อยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น The Twelve Apostles หรือเสาหินสาวกทั้ง 12 ของพระเจ้า เสาหินปูนที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ ในอดีตเคยมีถึง 12 เสา แต่ปัจจุบันโดนน้ำเซาะจนเหลือเพียง 8 เสาเท่านั้น ต้องรีบไปดูก่อนจะหายไปหมดแล้วละ
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
ดำน้ำดูปะการังที่สวยที่สุดในโลก
ที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef)
ภาพจาก : iStockPhoto
แนวปะการังนอกชายฝั่งที่มีขนาดใหญ่และสวยที่สุดในโลก มีความยาวกว่า 2,000 กิโลเมตรแห่งนี้ใหญ่จนสามารถเห็นได้จากนอกโลก ทำให้กลายเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมของนักดำน้ำไปโดยไม่ต้องสงสัย การดำน้ำที่นี้นั้นก็มีทั้งการดำแบบผิวน้ำและดำน้ำลึก เพราะฉะนั้นจึงเหมาะกับทั้งคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์และนักดำน้ำขั้นเซียน สิ่งที่เพื่อนๆ จะได้เห็นเมื่อมาดำน้ำที่นี่นั้นก็มีตั้งแต่แนวปะการังสวยงาม ทั้งปะการังชนิดอ่อน ชนิดแข็ง มีรวมๆ กันกว่า 350 ชนิด นอกจากนั้นยังมีสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลทั้งปลา หอย เต่า งู วาฬ อีกกว่า 6,000 ชนิด แถมยังเป็นสถานที่ที่มีพะยูนอาศัยอยู่มากที่สุดในโลกด้วย เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว หากใครมาเที่ยวออสเตรเลียจึงไม่ควรพลาดสถานที่เที่ยวออสเตรเลียแห่งนี้ด้วยประการทั้งปวง
การเดินทาง
พักที่ไหนดี?
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
ไปชมโขดหินมหัศจรรย์อุลูรูหรือหินแอร์ส
(Uluru) & (Ayers Rock)
ภาพจาก : iStockPhoto
ภาพจาก : Shutterstock
อุลูรูคือก้อนหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใจกลางประเทศออสเตรเลีย ก้อนหินที่ความจริงแล้วเป็นยอดของภูเขาซึ่งจมอยู่ใต้ดิน มีความสูงกว่า 348 เมตร และวัดเส้นรอบวงจากฐานได้กว่า 9 กิโลเมตร มีความสวยงามมาก ส่วนสีสันนั้นก็จะเปลี่ยนแปลงตามเวลา อย่างตอนกลางวันเมื่อพระอาทิตย์ส่องจะมองเห็นเป็นสีแดง แต่หากตอนเย็นก็จะเห็นเป็นสีม่วง อุลูรูนั้นตั้งอยู่ในเขตทุรกันดารของออสเตรเลีย เป็นสถานที่ที่ไม่มีอะไรนอกจากทรายแห้งแล้ง และไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เวลาไปเที่ยว Expedia แนะนำให้ซื้อทัวร์เพราะอันตรายมาก มีรายงานคนหายจากพื้นที่นี้ทุกปี แต่ก็ยังมีคนเดินทางไปดูทุกปี เพราะเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของประเทศออสเตรเลียเลย หากใครไปเที่ยวออสเตรเลียแล้วมีกำลังทรัพย์เยอะหน่อย Expedia ก็อยากแนะนำให้ไปกัน นอกจากจะได้ไปดูก้อนหินอุลูรูแล้ว ยังสามารถแวะเที่ยวทะเลทรายแดงได้อีกด้วย