โดย Expedia Team, 19 June 2017

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

มีคำถามมากมายบนโลกแห่งนี้ที่ยังไม่มีคำตอบ สิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ยังไม่ถูกค้นพบ หรือความพิศวงของสิ่งต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความสามารถในการก่อสร้างของมนุษย์ และสิ่งที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้บางอย่างล้วนมีประวัติที่น่าดึงดูดใจอยู่เป็นจำนวนมาก วันนี้ Expedia จะนำพาทุกท่านไปรู้จักกับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณกัน

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณที่ต้องไปเยือนสักครั้ง


1

มหาพีระมิดแห่งกิซ่า (The Great Pyramid of Giza) ประเทศอียิปต์

1-The-Great-Pyramid-of-Giza

ภาพจาก: iStockPhoto

มหาพีระมิดแห่งกิซ่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ที่ไม่ว่าจะหาคำตอบอย่างไรก็ยังคงมีปริศนาให้สงสัยอยู่ในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างภายใน กระบวนการสร้าง รวมถึงความลับภายใต้พีระมิดที่ยังคงเป็นคำถามที่รอคำตอบอยู่ทั้งสิ้น

มหาพีระมิดแห่งกิซ่าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์อียิปต์ยุคโบราณ แต่ด้วยความที่ชาวอียิปต์มีพิธีกรรมหลังความตายแตกต่างจากชาติอื่น คือ เมื่อกษัตริย์สิ้นพระชนม์ลงจำเป็นจะต้องมีบริวาร รวมไปถึงสิ่งของเครื่องใช้เพื่อไปใช้ในภพหน้า ดังนั้นชาวอียิปต์จะฝังบริวารและข้าวของเครื่องใช้ของกษัตริย์เข้าไปในพีระมิดด้วย ซึ่งมหาพีระมิดแห่งกิซ่าถูกใช้เป็นที่บรรจุพระบรมศพของกษัตริย์คีออปส์ (CHEOPS) หรือ คูฟู ซึ่งพระองค์เป็นผู้สร้างขึ้นเอง โดยมหาพีระมิดแห่งกิซ่าจะตั้งเรียงกันอยู่ 3 พีระมิด คือ 1. พีระมิดคูฟู (Khufu) หรือ มหาพีระมิดแห่งกิซ่า 2. พีระมิดคาเฟร (Khafre) ซึ่งอยู่ตรงกลาง 3. พีระมิดเมนคูเร (Menkaure) มีขนาดเล็กที่สุด

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?

2

สวนลอยบาบิโลน (Hanging Gardens of Babylon) ประเทศอิรัก

2-Hanging Gardens of Babylon

ภาพจาก: en.wikipedia.org

ความรักคือสิ่งมหัศจรรย์ที่ผลักดันให้มนุษย์สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้มากมาย หนึ่งในนั้นคือสวนลอยบาบิโลน สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 600 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่ 2 แห่งกรุงบาบิโลเนียที่สร้างให้แก่พระนางเซมิรามิส มเหสีของพระองค์ สวนลอยบาบิโลนตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศอิรัก ห่างจากเมืองประมาณ 50 กิโลเมตร ถูกค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวเยอรมัน หลักฐานที่กล่าวถึงสวนลอยบาบิโลนมีเพียงแค่บันทึกในยุคโบราณ ปัจจุบันสวนแห่งนี้คงเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง กระนั้นทางประเทศอิรักก็ได้บูรณะสวนลอยนี้ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมโดยจะจัดเป็นส่วนต่างๆ ให้ใกล้เคียงกับบันทึกเมื่อ 600 ปีก่อนคริสต์ศักราช รวมไปถึงรูปแบบผังเมืองของกรุงบาบิโลน สิ่งก่อสร้าง วัฒนธรรมต่างๆ อันบ่งบอกว่าอิรักเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากเลยทีเดียว

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?

3

เทวรูปซูสที่โอลิมเปีย (Statue of Zeus at Olympia) ประเทศกรีซ

Statue of Zeus at Olympia 3

Statue of Zeus at Olympia 2
Statue of Zeus at Olympia
ภาพจาก: Expedia View Finder

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพ เทวดา ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่ในอดีต เทพเจ้าของกรีกคงหนีไม่พ้นซูสที่ถือเป็นเทพผู้ควบคุมทั้งสามภพ ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์ โลก และนรก จนชาวกรีกสร้างรูปปั้นเพื่อถือเป็นตัวแทนของเทพเจ้าองค์นี้

เทวรูปซูสที่โอลิมเปียเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ สร้างจากไม้ ประดับด้วยทองคำและงาช้าง ลักษณะประทับนั่งอยู่บนฐานกว้าง 10.30 เมตร ตัวเทวรูปสูงประมาณ 12 เมตร พระหัตถ์ซ้ายถือคทา พระหัตถ์ขวารองรับไนกี้ เทพีแห่งชัยชนะ มีเครื่องประดับที่ทำจากทองคำล้วน สร้างในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราช เทวรูปนี้ประดิษฐานอยู่ในวิหารซูสที่โอลิมเปียประเทศกรีซ แต่น่าเสียดายที่เทวรูปนี้ถูกทำลายลงเพราะอัคคีภัยในปี ค.ศ. 475 ปัจจุบันนี้ไม่เหลือชิ้นส่วนใดๆ หลงเหลืออยู่เลย แต่ประเทศกรีซก็ยังถือเป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวและมีประวัติศาสตร์ด้านเทพเจ้ายาวนาน ทั้งยังมีประติมากรรมรวมไปถึงนักปราชญ์ชื่อดังอยู่ในประเทศนี้เป็นจำนวนมาก

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?

4

วิหารอาร์ทิมิส (Temple of Artemis) ประเทศตุรกี

4-Temple-of-Artemis

ภาพจาก: iStockPhoto

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับต่อไปเป็นเรื่องความเชื่อของนักล่าสัตว์ในอดีต ซึ่งในสมัยก่อนก่อนที่จะเข้าไปล่าสัตว์จำเป็นต้องภาวนาต่อเทพเจ้าอย่างอาร์ทิมิส (Artemis) เทพเจ้าแห่งการล่าสัตว์และดวงจันทร์ รวมไปถึงเป็นเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบรูณ์และความร่ำรวยด้วย โดยนักล่าสัตว์จะภาวนาต่อเทพเจ้าอาร์ทิมิสเพื่อความเป็นสิริมงคลและขอให้นำสัตว์กลับมาได้จำนวนมาก

วิหารอาร์ทิมิสเป็นวิหารใหญ่ สร้างขึ้นจากหินอ่อน เป็นความตั้งใจของกษัตริย์แห่งลิเดีย (Lydia) ที่จะสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าอาร์ทิมิส โดยมีรูปปั้นของเทพเจ้าอาร์ทีมิสตกแต่งอยู่ภายใน แต่ภายหลังได้ถูกทำลายโดยพวกโกธส์จากเยอรมันที่บุกเข้ามาโจมตี เมื่อปี ค.ศ. 1348 โดยปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพังเท่านั้น

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?

4

สุสานแห่งฮาลิคาร์นัสเซิส (The Mausoleum at Halicarnassus) ประเทศตุรกี

5-The-Mausoleum-at-Halicarnassus

ภาพจาก: iStockPhoto

หลายคนคงจะเคยได้ยินได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับกษัตริย์ที่สร้างปราสาทให้แก่พระมเหสีอันเป็นที่รักหรือสุสานให้พระมเหสีที่ล่วงลับมาหลายเรื่องแล้ว แต่กลับกันสุสานแห่งฮาลิคาร์นัสเซิส 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณนี้ เป็นสุสานที่ราชินีอาเตมีสเซียสร้างขึ้นหลังการสวรรคตของพระสวามี สุสานแห่งฮาลิคาร์นัสเซิสเป็นสุสานขนาดใหญ่ของกษัตริย์โมโซลูสแห่งลิเชีย ในเอเชียไมเนอร์ ตั้งอยู่ที่ฮาลิคาร์นัสเซิส ประเทศตุรกี ความยิ่งใหญ่ของสุสานแห่งนี้มีบันทึกไว้ว่า สุสานมีขนาดสูงถึง 140 ฟุต ซึ่งเท่ากับตึก 14 ชั้น ฐานโดยรอบยาวถึง 460 ฟุต ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก แต่เป็นที่น่าเสียดายเพราะสุสานแห่งนี้ได้ถล่มลงจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในคริสต์ศตวรรษที่ 12-13 โดยตอนนี้เหลือเพียงซากให้เข้าชมถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตเท่านั้น

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?

6

มหารูปแห่งโรดส์ (Colossus of Rhodes) ประเทศกรีซ

6-Colossus-of-Rhodes

ภาพจาก: iStockPhoto

การค้าขายทางทะเลในยุคโบราณถือเป็นการขนถ่ายสินค้าที่สะดวกและเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ดี ประเทศกรีซในอดีตจึงสร้างรูปจำลองเทพอพอลโล ซึ่งเป็นตัวแทนของแสงสว่างและดวงอาทิตย์ยืนคร่อมทางเข้าปากอ่าวของเกาะโรดส์เอาไว้

มหารูปแห่งโรดส์สร้างมาจากสำริด เป็นเทวรูปของสุริยเทพอพอลโล สร้างขึ้นโดยชาเรสแห่งลินดอส มีความสูงประมาณ 33 เมตร มือขวาถือประทีป ยืนถ่างขาคร่อมปากอ่าวให้เรือลอดไปมาได้ ทว่าพังทลายลงด้วยเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 226 ปี ก่อนคริสตกาล จนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 10 ซากชิ้นส่วนที่เหลืออยู่ถูกขายให้แก่ชาวเมืองซาราเซนเพื่อไปทำอาวุธสงครามครูเสด ปัจจุบันไม่มีเหลือเศษซากของมหารูปนี้อยู่เลย แต่สถานที่ของ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกแห่งนี้ได้ถูกบูรณะให้สวยงามน่าไปเยี่ยมเยือน พร้อมกับวิวทิวทัศน์บริเวณปากอ่าวของเกาะโรดส์ในทะเลเอเจียน ที่รอให้เราได้ไปสัมผัสบรรยากาศสักครั้งในชีวิต

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?

7

ประภาคารฟาโรสแห่งอเล็กซานเดรีย (Lighthouse of Alexandria) ประเทศอียิปต์

7-Lighthouse-of-Alexandria

ภาพจาก: iStockPhoto

สิ่งที่คอยนำทางให้กับนักเดินเรือที่ไร้ทิศทางในเวลากลางคืน เพื่อให้พวกเขาไปถึงจุดเป้าหมายได้สะดวกหรือใช้เป็นด่านแรกในการทำสงครามสู้กับศัตรูติดทะเลในสมัยก่อนของเมืองอเล็กซานเดรียคือ ประภาคารฟาโรส

ประภาคารฟาโรสแห่งอเล็กซานเดรีย เป็นประภาคารหินอ่อนโบราณบนเกาะฟาโรสในเมืองอเล็กซานเดรีย โครงสร้างทำจากหินอ่อนสีขาวเป็นรูปทรงกระบอกสูง และถูกสลักด้วยลวดลายต่างๆ อย่างงดงาม ซึ่งใช้เวลาการสร้างประมาณ 20 ปี เลยทีเดียว บนยอดมีตะเกียงขนาดใหญ่เอาไว้ปล่อยควันในเวลากลางวันและใช้เป็นจุดส่องสว่างในเวลากลางคืน ซึ่งสว่างไสวจนสามารถมองเห็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ โดยปัจจุบันประภาคารฟาโรสแห่งอเล็กซานเดรียได้พังลงเหลือเพียงแค่ซากอยู่ใต้ทะเลจากเหตุการณ์การยึดครองเมืองของชาวอาหรับ แต่เสน่ห์ของที่นี่ทำให้กลายเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวของอียิปต์ที่ไม่ควรพลาด

การเดินทาง
พักที่ไหนดี?

ครบทั้ง 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่อยู่ในยุคโบราณแล้ว ครั้งหน้า Expedia จะนำทุกท่านไปรู้จักกับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคต่อๆ ไปกันด้วย อย่าลืมติดตามกันนะ