เวลาเพื่อนๆ ออกไปท่องเที่ยว ต่างคนต่างก็มีเป้าหมายในการไปเที่ยวต่างกันออกไป บางคนชอบไปเที่ยวเพื่อจะได้ลองทานอาหารใหม่ๆ พบผู้คนใหม่ๆ เจอวัฒนธรรมใหม่ๆ และเชื่อได้เลยว่ามีเพื่อนๆ นักท่องเที่ยวอีกหลายคนที่ออกไปท่องเที่ยวเพราะต้องการไปดูสถาปัตยกรรมสวยงามในต่างประเทศ วันนี้ Expedia จึงอยากพาเพื่อนๆ ไปท่องโลกของสถาปัตยกรรมกับ 10 สถาปัตยกรรมดีไซน์สวยแปลกทั่วโลก รับรองได้เลยว่าจะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับความแปลกใหม่ที่สวยงามและลงตัวเหล่านี้อย่างแน่นอน
ที่สุดของสถาปัตยกรรมสวยแปลกจากทั่วโลก

CCTV Tower
กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

ภาพจาก : iStockPhoto
ที่แรกมาเริ่มกันที่ปักกิ่ง เมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ในไม่กี่ปีที่ผ่านมามีตึกสูงหน้าตาแปลกใหม่ถูกสร้างขึ้นมากมายรวมไปถึงตึก Central Chinese Television Tower (CCTV) หรือตึกสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน ตึกแห่งนี้สร้างเสร็จเมื่อปี 2008 ตั้งอยู่ในย่านศูนย์ธุรกิจของปักกิ่งที่มีตึกสูงอยู่กว่า 300 ตึก โดยตึก CCTV นั้นมีความสูง 234 เมตร สูงเป็นอันดับ 2 ในปักกิ่งรองจากตึกจงกั๋ว จุน (Zhongguo Zun) เพียงตึกเดียวเท่านั้น สถาปัตยกรรมอันสวยงามของตึก CCTV นั้นออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Rem Koolhaas และทีมออกแบบ OMA ซึ่งออกแบบให้เป็น 2 ตึกตั้งตรงข้ามกันแล้วเชื่อมต่อด้วยทางเดินกว้างกว่า 75 เมตร มีไอเดียการดีไซน์มาจากตึกเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ในประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเอง
กิจกรรมที่เพื่อนๆ สามารถทำภายในตึกได้ก็มีมากมาย เช่น การขึ้นไปชมวิวจากชั้น 22 ซึ่งมีจุดชมวิวขนาดใหญ่อยู่ จากด้านบนเพื่อนๆ สามารถเห็นสถานที่ที่เป็นไฮไลท์สำคัญของปักกิ่งได้ เช่น จัตุรัสเทียนอันเหมิน พระราชวังต้องห้าม (พระราชวังกู้กง) หรือหากจะไปทานข้าวที่ชั้น 18 ก็มีภัตตาคารแบบหมุนได้พร้อมบริการ โดยภัตตาคารจะค่อยๆ หมุนไปรอบๆ 1 รอบใช้เวลาประมาณ 80 นาที อาหารกลางวันจะเริ่มเวลา 11.00 – 14.00 น. ส่วนอาหารเย็นจะเริ่มที่ 17.00 – 22.00 น.
ค่าเข้าชมภายในตึก 90 RMB
ทุกวัน 08.30 – 22.00 น.
จากประเทศไทยสามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่ สนามบินนานาชาติปักกิ่ง จากนั้นขึ้นรถบัส Airport Express จากเทอร์มินอล 2 ไปลงที่ Dongzhimen Station จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นสาย 1 ไปลงที่ Yong An Li Station แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 400 เมตรจะถึงยังตัวตึก ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินนานาชาติปักกิ่งถึงที่หมายรวมทั้งหมดประมาณ 50 นาที ค่าเดินทางประมาณ 34 RMB
Inter Continental Beijing Financial Street โรงแรมหรูใน Xicheng ปักกิ่งห่างจากพิพิธภัณฑ์นครหลวง 1.8 กม. และอยู่ภายในระยะ 5 กม. จากพระราชวังต้องห้ามและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำปักกิ่ง ส่วนสวน Beihai และ Great Hall of the People อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 5 กม. โรงแรมแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น 3 ห้องอาหาร บริการสปาครบวงจร และสระว่ายน้ำในร่มพร้อมให้บริการ ทางที่พักยังให้บริการ Wi-Fi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ และบริการรับจอดรถฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีฟิตเนสที่เปิด 24 ชั่วโมง บาร์/เลานจ์ และร้านกาแฟ/คาเฟ่
The Presidential Beijing โรงแรมสไตล์อาร์ตเดโคใน Xicheng ปักกิ่งโรงแรมนี้สามารถเดินไปศูนย์แสดงสินค้านานาชาติปักกิ่งและอาคาร Ziguang Pavilion of Beijing ได้ใน 15 นาที ส่วนหอศิลป์ Treasure Gallery และพิพิธภัณฑ์ Beijing Lu Xun อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 2 กม. โรงแรมนี้มีห้องอาหารพร้อมด้วยสระว่ายน้ำในร่มและฟิตเนส มี Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีร้านกาแฟ/คาเฟ่ สแน็คบาร์/เดลี่ และซาวน่า
ที่พักอื่นๆ ย่านการเงินปักกิ่ง

Gardens by the bay
ประเทศสิงคโปร์

ภาพจาก : iStockPhoto
ถัดมาอีกประเทศที่มีสถาปัตยกรรมดีไซน์แปลกๆ มากมายอย่างสิงคโปร์บ้าง ซึ่งที่สิงคโปร์นั้นเป็นประเทศที่มีการออกแบบตึกและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้ทั้งทันสมัยและลงตัวกับธรรมชาติ โดยเฉพาะการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ ที่นี่เป็นสวนขนาดใหญ่ริมอ่าวมาริน่าอันขึ้นชื่อว่าเป็นสิ่งก่อสร้างแห่งอนาคต มีการออกแบบอย่างทันสมัย เป็นความมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมที่แท้จริง เน้นให้รูปทรงเก๋ไก๋และกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ทั้งยังจำลองสภาพภูมิอากาศแบบต่างๆ ไว้สำหรับพันธุ์พืชแต่ละชนิด ทำให้เพื่อนๆ นักท่องเที่ยวได้ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่สวยงามของธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็ต้องทึ่งไปกับความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นเช่นเดียวกัน
การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ประกอบไปด้วยโดมเรือนกระจกขนาดใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 2 โดม สร้างโดยไม่ใช้เสา นั่นก็คือฟลาวเวอร์ โดม (Flower Dome) ที่เพื่อนๆ สามารถไปดูพันธุ์ไม้ต่างๆ ได้มากมาย และ คลาวด์ ฟอเรสต์ โดม (Cloud Forest Dome) ซึ่งมีไฮไลท์อยู่ที่ภูเขาน้ำตกขนาดใหญ่ นอกจากนี้ภายนอกโดมยังมีต้นซูเปอร์ ทรี (Super Tree) สวนแนวตั้งขนาดใหญ่ สูงเท่ากับอาคาร 9 และ 11 ชั้น หรืออยากจะไปเดินบนทางเดินลอยฟ้า OCBC ที่ตั้งอยู่ระหว่างต้นซูเปอร์ทรีก็ได้เช่นเดียวกัน
ตั๋วเข้าโดมเรือนกระจกทั้ง 2 เรือนราคา 28 SGD แต่หากเข้าที่เดียวสำหรับผู้ใหญ่ราคา 15 SGD เด็กราคา 12 SGD และบริเวณทางเดิน OCBC สำหรับผู้ใหญ่ราคา 8 SGD และเด็กราคา 5 SGD
ทุกวัน สวนกลางแจ้งเปิดเวลา 05.00 – 02.00 น. บริเวณเรือนกระจกและทางเดินลอยฟ้าเปิดเวลา 09.00 – 21.00 น.
จากประเทศไทยสามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่ สนามบินนานาชาติชางฮี ได้เลย จากนั้นนั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากสนามบินมาลงที่ Raffle Place Station จากนั้นเดินลัดเลาะไปตามแม่น้ำอีกประมาณ 2.1 กิโลเมตรจะถึงยังปลายทาง ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินนานาชาติชางฮียังที่หมายประมาณ 55 นาที ค่าเดินทางประมาณ 6 SGD
The Ritz – Carlton โรงแรมหรูในมารีนาเบย์โรงแรมนี้สามารถเดินไปห้างสรรพสินค้า Esplanade และสะพาน Helix Bridge ได้ใน 5 นาที ในขณะที่มิลเลเนีย วอล์คและสิงคโปร์ฟลายเออร์อยู่ห่างไปโดยใช้เวลาเดินไม่เกิน 10 นาที โรงแรมนี้มี 2 ห้องอาหาร บริการสปาครบวงจร และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง มี Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีฟิตเนสที่เปิด 24 ชั่วโมง บาร์/เลานจ์ และบาร์ริมสระว่ายน้ำ
SO Sofitel Singapore โรงแรมหรูในมารีนาเบย์โรงแรมนี้สามารถเดินไปวัดเซียนฮกเก๋งและราฟเฟิลส์ เพลสได้ใน 10 นาที ในขณะที่ศูนย์มรดกไชน่าทาวน์และโบ๊ทคีย์อยู่ห่างไปโดยใช้เวลาเดินไม่เกิน 15 นาที โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้มีห้องอาหาร สระว่ายน้ำกลางแจ้ง และฟิตเนส มี Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีบาร์/เลานจ์ บาร์ริมสระว่ายน้ำ และดาดฟ้า
โรงแรมอื่นๆ ย่านอ่าวมาริน่า

Burj al Arab
เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ตึกบุรจญ์ อัล อาหรับเป็นโรงแรม 7 ดาวเพียงแห่งเดียวในโลก ตัวตึกสูงกว่า 320 เมตร Tom Wright สถาปนิกที่ออกแบบโรงแรมแห่งนี้กล่าวว่าตึกบุรจญ์ อัล อาหรับแห่งนี้จะกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งดูไบ เพราะเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีดีไซน์ล้ำสมัย สร้างขึ้นบนเกาะเทียมที่ถมขึ้นใหม่กลางทะเลนอกชายฝั่งหาดจูไมราห์ ลักษณะของสถาปัตยกรรมนั้นถูกออกแบบให้เหมือนเรือใบดาวว์ (Dhow) หรือเรือใบเดินทะเลของชาวอาหรับ ภายในตกแต่งหรูหราตั้งแต่โถงทางเดิน ห้องพัก ร้านอาหาร ลิฟต์ ไปจนถึงห้องน้ำ
เนื่องด้วยโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะเทียมส่วนตัว หากใครที่จะผ่านเข้าไปบนเกาะจึงต้องมีใบจองห้องพักหรือใบจองร้านอาหาร โดยร้านอาหารในโรงแรมนั้นก็มีมากมายหลากหลายสไตล์ แต่ร้านที่ถือว่าเป็นสุดยอดของตึกบุรจญ์ อัล อาหรับแห่งนี้ก็คือร้าน อัล มาฮารา แอท นาธาน เอาท์ลอว์ (Nathan Outlaw at Al Mahara) เชฟชื่อดังจากอังกฤษ ที่เพื่อนๆ จะได้ทานอาหารทะเลที่รับรองได้ว่าสดใหม่สมราคา แถมภายในร้านอาหารยังดีไซน์ให้เพื่อนๆ ได้นั่งดูเหล่าปลาน้อยใหญ่ว่ายน้ำอยู่ข้างๆ อีกด้วย เพราะมีตู้ปลาขนาดใหญ่อยู่ภายในร้านอาหาร หรือหากใครอยากจะไปเดินเล่นริมชายหาด ถ่ายรูปตึกบุรจญ์ อัล อาหรับจากภายนอกก็ได้เช่นเดียวกัน
เนื่องจากเป็นโรงแรมหากชมเพียงภายนอกจะไม่เสียค่าเข้าชม
โรงแรมเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ร้านอาหารเริ่มเสิร์ฟมื้อเที่ยงเวลา 12.30 – 15.30 น. และมื้อเย็นเวลา 19.00 – 23.30 น.
จากประเทศไทยสามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่ สนามบินนานาชาติดูไบ ได้เลย จากนั้นสามารถให้รถโรงแรมมารับหรือจะนั่งแท็กซี่ไปก็ได้เช่นเดียวกัน
Burj Al Arab Jumeirah โรงแรม 7 ดาวพร้อมทางเดินไปยังชายหาดได้โดยตรงนี้ตั้งอยู่ในบีชแอนด์โคสต์ คุณสามารถเดินไปสวนน้ำ Wild Wadi และ Souk Madinat Jumeirah ได้ใน 15 นาที ส่วนหาดอุมสุควีมและสกีดูไบอยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 10 กม. คุณสามารถนอนอาบแดดบนหาดทรายสีขาวส่วนตัวของ บุรจญ์ อัล อาหรับ จูไมราห์ หรือจะผ่อนคลายด้วยทรีตเมนท์ของสปาที่ให้บริการแบบเต็มรูปแบบ จากนั้นไปรับประทานอาหารที่หนึ่งใน 6 ห้องอาหารของโรงแรมได้เลย
Jumeirah Mina A Salam – Madinat Jumeirah โรงแรม 5 ดาวโรงแรมนี้ตั้งอยู่ริมหาดในบีชแอนด์โคสต์ ห่างจาก Souk Madinat Jumeirah และสวนน้ำ Wild Wadi ไม่เกิน 2 กม. ส่วนโรงแรม Burj Al Arab และวิทยาลัยดูไบอยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 5 กม. คุณสามารถนอนอาบแดดบนหาดทรายสีขาวส่วนตัวของจูเมราห์ มินา อะ ซาลัม – มาดินัต จูเมราห์ หรือผ่อนคลายด้วยทรีตเมนท์ของสปาที่ให้บริการแบบเต็มรูปแบบ จากนั้นไปรับประทานอาหารที่หนึ่งใน 20 ห้องอาหารของโรงแรมให้อิ่มท้อง
โรงแรมอื่นๆ ใกล้หาดจูไมราห์

Casa Mila
บาร์เซโลนา ราชอาณาจักรสเปน

ภาพจาก : iStockPhoto
ตึกประหลาด คาซา มิลาเป็นที่อยู่อาศัยซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กของเมืองบาร์เซโลนาเลยก็ว่าได้ ตัวตึกนั้นมีผนังลักษณะคล้ายกับคลื่น บริเวณระเบียงดูคล้ายกับถ้ำ ส่วนตรงกลางจะเป็นช่องลึกลงไป บนดาดฟ้ามีรูปปั้นหน้าตาแปลกประหลาดอยู่มากมาย ซึ่ง Antoni Gaudi ผู้ออกแบบใช้ศิลปะสไตล์อาร์ต นูโว ผสานแรงบันดาลใจจากถ้ำที่พักอาศัยของชาวแอฟริกันบนหน้าผาอันสูงชัน เน้นการออกแบบโดยปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องเป็นเส้นตรงทื่อๆ ทำให้ตัวตึกนั้นดูมีชีวิตชีวามาก ให้ความรู้สึกเหมือนอาศัยอยู่ในถ้ำที่อ่อนช้อยพลิ้วไหวงดงาม ตึกนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเดินเยี่ยมชมบริเวณตึกรวมถึงขึ้นไปชมวิวเมืองบาร์เซโลนาแบบ 360 องศาบนยอดตึกได้ด้วย
ผู้ใหญ่ราคา 22 EUR นักเรียนราคา 16.50 EUR ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปราคา 16.50 EUR เด็กอายุ 7 – 12 ปีราคา 11 EUR เด็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบไม่เสียเงิน
ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.
จากประเทศไทยสามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่ สนามบินนานาชาติบาร์เซโลนา เอล ปรัต จากนั้นสามารถนั่งรถไฟฟ้าสาย R2 จากสนามบินไปไปยังสถานีปาสเสส เดอ กราเซีย (Passeig De Gracia) จากนั้นเดินไปอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึงยังปลายทาง ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 21 นาที ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 2 EUR
Palou Suites – Mercader เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ 3.5 ดาวในดาวน์ทาวน์บาร์เซโลนา เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์นี้สามารถเดินไป Casa Mila และ Casa Batllo ได้ใน 10 นาที ส่วน Sagrada Familia และ Palau de la Musica Catalana อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 2 กม. เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ปลอดบุหรี่แห่งนี้มีดาดฟ้าพร้อมด้วยห้องประชุมและบริการรับจองแพ็คเกจท่องเที่ยว มี Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ ฝ่ายต้อนรับ 24 ชั่วโมง ห้องสมุด และบริการจองทัวร์/ตั๋ว
Suites Avenue อพาร์ทเมนท์ 3.5 ดาวในเดรตา เด เล็กซ์ซัมเปล บาร์เซโลนาสามารถเดินไป Casa Mila และ Casa Batllo ได้ใน 5 นาที ส่วน Sagrada Familia และ Palau de la Musica Catalana อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 2 กม. อพาร์ทเมนท์แห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ฟิตเนส และซาวน่า พร้อมให้บริการ มี Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ ดาดฟ้า บริการสปา และรูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง
โรงแรมอื่นๆ ในบาร์เซโลนา

The Dancing House
กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก

เดอะ แดนซิง เฮาส์หรือตึกเต้นรำ สถาปัตยกรรมสุดแสนเก๋ไก๋แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก แต่เดิมตึกแห่งนี้มีชื่อว่า Fred and Ginger (เฟรด แอนด์ จิงเจอร์) โดยสถาปนิกชื่อดัง Frank Gehry และ Vlado Milunic สองผู้ออกแบบได้ตั้งตามชื่อของนักเต้นรำชาวอเมริกัน 2 ท่าน ได้แก่ Fred Astaire และ Ginger Rogers เพราะมีไอเดียมาจากการเต้นรำของผู้ชายและผู้หญิงนั่นเอง โดยเดอะ แดนซิง เฮาส์นั้นถูกโอบล้อมด้วยตึกที่มีการออกแบบสไตล์ดั้งเดิม ทั้งบาโรค โกธิค และอาร์ตนูโว ทำให้เพื่อนๆ มองเห็นความโดดเด่นของเดอะ แดนซิง เฮาส์ได้อย่างชัดเจน หากเพื่อนๆ ได้เดินทางไปเที่ยวเมืองปรากก็สามารถแวะไปดื่มเครื่องดื่มที่บาร์แล้วขึ้นไปทานอาหารร้านเซเลสเต้ (Celeste) สุดหรูหราของกรุงปรากได้บนชั้นดาดฟ้าของตึกแห่งนี้ หรือใครอยากจะลองเข้าพักที่ตึกแห่งนี้ก็มีโรงแรมให้บริการเช่นเดียวกัน
เนื่องจากเป็นร้านอาหาร หากชมภายนอกจะไม่เสียค่าเข้าชม
ทุกวัน 11.30 – 24.00 น.
จากประเทศไทยสามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่ สนามบินนานาชาติวาตสลัฟ ฮาเวล ปราก จากนั้นนั่ง Prague Airport Shuttle จากสนามบินไปลงที่สถานี Prague Metro Mustek แล้วเดินต่ออีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร ระยะเวลาการเดินทางจากสนามบินนานาชาติวาตสลัฟ ฮาเวล ปรากไปยังที่หมายใช้เวลาประมาณ 49 นาที ค่าเดินทาง 3 EUR
Dancing House Hotel โรงแรมริมแม่น้ำใน Nove Mesto ปราก คุณสามารถเดินไปแดนซิ่งเฮาส์แห่งกรุงปราก หอศิลป์เมนส์ และอาคารจัดคอนเสิร์ตปราก ฮลาฮอลได้ใน 5 นาที ในขณะที่อนุสาวรีย์ฟรานติเซก พาลัคกีและมหาวิทยาลัยเทคนิคเช็กอยู่ห่างไปโดยใช้เวลาเดินไม่เกิน 10 นาที โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้มีห้องอาหาร บาร์/เลานจ์ และศูนย์จัดการประชุม ทางที่พักยังให้บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ฟรี และ Wi-Fi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ ที่จอดรถ (คิดค่าบริการ) ห้องประชุม และบริการรับจองแพ็คเกจท่องเที่ยว
Radisson Blu Alcron Hotel โรงแรมหรูใน Nove Mesto ปราก คุณสามารถเดินไป Lucerna Arcade ได้ โรงแรมหรูแห่งนี้ตั้งอยู่ใน Nove Mesto ห่างจาก Lucerna Arcade และจัตุรัสเวนเซสลาสเพียงไม่กี่ก้าว ในขณะที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเช็กและพิพิธภัณฑ์ Mucha อยู่ห่างไปโดยใช้เวลาเดินไม่เกิน 10 นาที โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้มี 2 ห้องอาหาร ฟิตเนส และบาร์/เลานจ์ มี Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ ซาวน่า ศูนย์จัดการประชุม และบริการรับจอดรถ (คิดค่าบริการ)
โรงแรมอื่นๆ ในปราก

The Hundertwasserhaus
กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

ภาพจาก : iStockPhoto
เวียนนา นครแห่งเสียงดนตรี ชื่อนี้ได้มาเพราะที่นี่มีนักประพันธ์เพลงคลาสสิคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบีโธเฟ่นหรือโมสาร์ท ต่างเคยอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ แน่นอนว่าด้วยความเป็นเมืองคลาสสิคจึงทำให้มีสถาปัตยกรรมรูปทรงสวยงามมากมาย แต่ที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมกันนั้นเป็นสถาปัตยกรรมที่สรรค์สร้างมาพร้อมกับศิลปะอันสวยงามแปลกใหม่ มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครที่เดอะ ฮุนเดิทวาสเซอร์เฮาส์ ตึกหน้าตาแปลกที่มาพร้อมกับสีสันสวยงาม แลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเวียนนา โดยสถาปัตยกรรมอันสวยงามแห่งนี้ถูกออกแบบโดย Friedensreich Hundertwasser ศิลปินผู้เกลียดเส้นตรงที่ต้องการออกแบบสถาปัตยกรรมรูปแบบไม่เหมือนใคร และไม่ต้องการจำกัดการออกแบบว่าจะต้องเป็นเส้นตรงเท่านั้น เพราะเขาต้องการให้ทุกอย่างออกมาเป็นธรรมชาติ แถมยังมีการใช้สีสันหลากหลายในการตกแต่งให้สวยงามสะดุดตาผู้คนอีกด้วย ที่นี่เหมาะแก่การไปเดินเสพผลงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ ถ่ายรูป ซื้อของที่ระลึกกลับบ้าน
ค่าเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ 12 EUR
ตัวตึกสามารถเดินชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนพิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น.
จากประเทศไทยสามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่ สนามบินนานาชาติเวียนนา ได้เลย แล้วนั่งรถไฟจากสนามบินไปลงที่สถานี Wien Mitte แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 800 เมตร ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินนานาชาติเวียนนาไปยังที่หมายประมาณ 25 นาที ค่าเดินทาง 10 EUR
Ruby Lissi Hotel Vienna โรงแรม 3.5 ดาวในอินเนียร์ชตัดท์ เวียนนา สามารถเดินไป Schwedenplatz และ Stephansplatz ได้ใน 10 นาที ส่วนพระราชวังโฮฟบูร์กและ Hundertwasser House Vienna อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 2 กม. โรงแรมนี้มีบาร์/เลานจ์ พร้อมทั้งฝ่ายต้อนรับ 24 ชั่วโมง และ Wi-Fi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ
Ruby Sofie Hotel Vienna โรงแรม 3.5 ดาวใน Landstrasse เวียนนา อยู่ภายในระยะ 2 กม. จาก Hundertwasser House Vienna, Wiener Prater และ Stephansplatz ส่วนโบสถ์เซนต์ชาร์ลส์และพิพิธภัณฑ์ Belvedere อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 3 กม. โรงแรมนี้มีฟิตเนส พร้อมด้วยบาร์/เลานจ์ และร้านกาแฟ/คาเฟ่ มี Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีฝ่ายต้อนรับ 24 ชั่วโมง ห้องสมุด และบริการเช็คอินด่วน
โรงแรมอื่นๆ ใกล้เดอะ ฮุนเดิทวาสเซอร์เฮาส์

The crooked house
เมืองโซพอต ประเทศโปแลนด์

ภาพจาก : iStockPhoto
เดอะ ครุกต์ เฮ้าส์หรือสถาปัตยกรรมหน้าตาบิดเบี้ยวแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของห้างสรรพสินค้า The Rezydent Shopping Centre ซึ่งถูกออกแบบโดย Szotynscy & Zaleski ในส่วนของการดีไซน์ตึกบิดเบี้ยวนั้นได้รับไอเดียสุดบรรเจิดมาจากเทพนิยายของ Jan Marcin Szancer และภาพวาดของ Per Dahlberg โดยรูปร่างบิดเบี้ยวที่เห็นนี้เป็นเพียงแค่ข้างนอกเท่านั้น ส่วนข้างในห้างก็เป็นโครงสร้างตึกแบบปกติ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในโปแลนด์เลยทีเดียว หากเพื่อนๆ แวะมาที่นี่ก็สามารถมาถ่ายรูปกับตึกบิดเบี้ยวข้างหน้าแล้วเข้าไปช้อปปิ้งข้างในกันได้เลย
ไม่เสียค่าเข้าชม
ห้างสรรพสินค้าเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.
จากประเทศไทยสามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่ สนามบินนานาชาติกดัญสก์ เลก วาเวซา แล้วสามารถนั่งรถแท็กซี่ต่อไปได้ ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินนานาชาติกดัญสก์ เลก วาเวซาไปยังที่หมายประมาณ 22 นาที ค่าใช้จ่ายประมาณ 16 EUR
Sheraton Sopot Hotel โรงแรมพร้อมหาดส่วนตัวและบริการสปาครบวงจรแห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองในดอลนี โซพอต ห่างจาก Dom Zdrojowy และหาด Sopot เพียงไม่กี่ก้าว ในขณะที่ Atelier Theatre และ ประภาคาร Lighthouse อยู่ห่างไปโดยใช้เวลาเดินไม่เกิน 5 นาที นอนอาบแดดบนหาดทรายส่วนตัวของ Sheraton Sopot Hotel หรือผ่อนคลายด้วยทรีตเมนท์ของสปาที่ให้บริการแบบเต็มรูปแบบ จากนั้นไปรับประทานอาหารที่หนึ่งใน 2 ห้องอาหารของโรงแรมได้เลย
Hotel Rezydent โรงแรมหรูในโซพอต เซ็นทรัม คุณสามารถเดินไป Sierakowskich Manor ประภาคาร Lighthouse และ Dom Zdrojowy ได้ใน 10 นาที ในขณะที่ Sopot Pier และหาด Sopot อยู่ห่างไปโดยใช้เวลาเดินไม่เกิน 15 นาที นอกจากบริการสปาครบวงจรแล้ว โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้ยังมีห้องอาหารและบาร์/เลานจ์ มี Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีร้านกาแฟ/คาเฟ่ ซาวน่า และศูนย์ธุรกิจ 24 ชั่วโมง
โรงแรมอื่นๆ ในเมืองโซพอต

Cube House
เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

ภาพจาก : iStockPhoto
คิวบ์ เฮาส์ตั้งอยู่ที่เมืองรอตเตอร์ดัม เมืองนี้เคยถูกระเบิดเมื่อปี ค.ศ.1940 หลังจากนั้นได้มีการสร้างตึกใหม่รูปทรงแปลกๆ ขึ้นมามากมาย ทำให้การมาชื่นชมสถาปัตยกรรมดีไซน์ใหม่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองรอตเตอร์ดัมแห่งนี้ไปเลย และหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดก็คือคิวบ์ เฮาส์แห่งนี้นั่นเอง โดยคิวบ์ เฮาส์เป็นบ้านรูปทรงลูกบาศก์สีเหลืองเอียง 45 องศา ออกแบบโดย Piet Blom ที่นำลูกบาศก์ 38 ลูกมาประกอบติดกัน โดยบ้านแต่ละหลังจะมีทั้งหมด 3 ชั้น เป็นบ้านพักอาศัยของผู้คนจริงๆ แต่หากใครอยากจะเข้าไปชมก็มี 1 ลูกที่เปิดไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้ ซึ่งการออกแบบตกแต่งภายในก็จะเหมือนกับบ้านหลังอื่นๆ เห็นรูปทรงแปลกๆ แบบนี้แต่มีพื้นที่ใช้สอยถึง 100 ตารางเมตรเลยทีเดียว หลังจากชมคิวบ์ เฮาส์เสร็จ เพื่อนๆ สามารถไปเดินชมท่าเรือต่อหรือจะลองนั่งเรือชมเมืองก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
ผู้ใหญ่ 2.50 EUR เด็ก 1.50 EUR ผู้สูงอายุ 1 EUR
ทุกวัน 11.00 – 17.00 น.
จากประเทศไทยสามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่ สนามบินนานาชาติรอตเตอร์ดัม เดอะ เฮก จากนั้นนั่งรถบัสสาย 32 ลงที่สถานี Blaak Station จากสนามบินนานาชาติรอตเตอร์ดัม เดอะ เฮกไปยังที่หมายใช้เวลาประมาณ 24 นาที ค่าใช้จ่าย 2 EUR
Nhow Rotterdam Hotel โรงแรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใน Feijenoord รอตเตอร์ดัมแห่งนี้สามารถเดินไปสะพาน Erasmus ได้ คุณสามารถเดินไปอาคาร De Rotterdam และสะพาน Erasmus ได้ใน 10 นาที ส่วนโรงแสดงคอนเสิร์ต WORM และพิพิธภัณฑ์ Maritime อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 2 กม. โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้มีห้องอาหาร บาร์/เลานจ์ และร้านกาแฟ/คาเฟ่ มี Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีดาดฟ้า ที่จอดรถ (คิดค่าบริการ) และพื้นที่จัดการประชุม
Holiday Inn Express Rotterdam โรงแรม 3 ดาว ใน Centrum รอตเตอร์ดัมโรงแรมสามารถเดินไปโรงละครโอลด์ ลักซอร์ และ De Koopgoot ได้ใน 10 นาที ส่วนโรงแสดงคอนเสิร์ต WORM และพิพิธภัณฑ์ Maritime อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 2 กม. โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้มีห้องอาหาร บาร์/เลานจ์ และที่จอดรถ (คิดค่าบริการ) ทางที่พักยังให้บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ฟรีและ Wi-Fi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีศูนย์ธุรกิจ ห้องประชุม และฝ่ายต้อนรับ 24 ชั่วโมง
โรงแรมอื่นๆ ในรอตเตอร์ดัม

Habitat 67
เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา

ภาพจาก : iStockPhoto
ฮาบิแทท 67 หรืออพาร์ทเมนท์โมดูล่าที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมอันล้ำสมัยแห่งนี้ออกแบบโดย Moshe Safdie ซึ่งฮาบิแทท 67 เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยของเขาที่ศึกษาเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและระบบโมดูล่า 3 มิติ ลักษณะของอพาร์ทเมนท์แห่งนี้จะคล้ายกับภูเขา 3 ลูกเรียงติดกันที่เกิดจากโมดูลหลากหลายขนาดมาซ้อนกันถึง 8 ชั้น โดยอพาร์ทเมนท์แห่งนี้มีคนพักอาศัยอยู่จริง เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของคอนโดมิเนียมในทุกวันนี้เลยก็ว่าได้ เพื่อนๆ สามารถเดินไปชมฮาบิแทท 67 มุมกว้างได้จากแม่น้ำฝั่งตรงข้ามหรือหากใครอยากจะเข้าไปชมใกล้ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน
ไม่เสียค่าเข้าชม
24 ชั่วโมง
จากประเทศไทยสามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่ สนามบินนานาชาติมอนทรีออล เซนต์ ฮูเบิร์ต จากนั้นนั่งรถไฟ VIA จากสนามบินไปลงยังสถานีมอนทรีออล (Montreal) แล้วสามารถนั่งแท็กซี่หรือจะเดินต่อไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตรก็ได้เช่นเดียวกัน ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายในการเดินทางประมาณ 40 CAD
Hotel Bonaventure Montreal โรงแรม 4 ดาวในวีล มารี มอนทรีออลโรงแรมนี้สามารถเดินไปสนามเบลเซ็นเตอร์และอาคารปลาซ วิลล์-มารีย์ได้ใน 10 นาที ส่วนมหาวิหารโนเทรอดามและวิหารไครสต์เชิร์ชอยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่เกิน 2 กม. โรงแรมแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องอาหาร สระว่ายน้ำกลางแจ้ง และเฮลท์คลับที่เปิด 24 ชั่วโมงพร้อมให้บริการ มี Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีบาร์/เลานจ์ ดาดฟ้า และศูนย์ธุรกิจ 24 ชั่วโมง
Hotel Chrome Montréal Centre-ville โรงแรม 3 ดาวในการ์ทิเยร์เดสเปกตาเคิลส์ มอนทรีออลโรงแรมนี้สามารถเดินไปเมโทรโพลิสและอนุสาวรีย์แห่งชาติได้ใน 5 นาที ในขณะที่มหาวิทยาลัยควิเบก – มอนทรีออลและตลาด Bonsecours อยู่ห่างไปโดยใช้เวลาเดินไม่เกิน 10 นาที โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้มีห้องอาหาร ศูนย์จัดการประชุม และที่จอดรถ (คิดค่าบริการ) มี Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ ศูนย์ธุรกิจ ฝ่ายต้อนรับ 24 ชั่วโมง และเครื่องคอมพิวเตอร์
โรงแรมอื่นๆ ในมอนทรีออล

Solar Furnace
เมืองโอเกโล ฝรั่งเศส

ภาพจาก : iStockPhoto
ปิดท้ายกันที่สถาปัตยกรรมที่เมืองโอเกโล ประเทศฝรั่งเศสอย่างโซลาร์ เฟอร์เนส โซลาร์ เฟอร์เนสเป็นเตารังสีแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูงอยู่ที่ 54 เมตรกว้างกว่า 48 เมตร ประกอบไปด้วยกระจกพาราโบลา 63 ชิ้นวางต่อกัน ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 6 ปี นอกจากจะมีประโยชน์เพราะสามารถสร้างพลังงานได้แล้วยังถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนต่างก็อยากแวะไปชมให้เห็นกับตาสักครั้ง เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม ซึ่งกระจกพาราโบลานั้นจะสะท้อนต้นไม้ ภูเขารอบด้าน ทำให้ตัวตึกดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติโดยรอบ ดูสวยงามลงตัวเป็นอย่างมาก
ไม่เสียค่าเข้าชม
เดินชมภายนอกได้ตลอด 24 ชั่วโมง
จากประเทศไทยสามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่ สนามบินนานาชาติตูลูส จากนั้นสามารถนั่งรถบัส Aeroport ไปยังสถานีรถไฟตูลูสมาตาบิโอ (Toulouse – Matabiau) แล้วนั่งรถไฟไปประมาณ 3 ชั่วโมงไปลงที่สถานีเดอการอลเอนไวก์ (De Carol Enveitg) จากนั้นนั่งรถบัสอีก 22 นาทีต่อไปยังเมืองเอแกต (Egat) เมื่อถึงยังสถานีเมืองเอแกต (Egat) สามารถนั่งรถแท็กซี่หรือจะเดินไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตรก็ได้ ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 6 ชั่วโมง 30 นาที ค่าเดินทางประมาณ 37 USD
Résidence Lagrange Vacances Le Pic de l’Ours สวรรค์แห่งฤดูหนาวพร้อมสระว่ายน้ำในร่มใน Font – Romeu – Odeillo – Via ทั้งยังใกล้กับลานสกี สามารถเดินไปสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งฟอ โรมู และสนามกอล์ฟ Golf de Font-Romeu ได้ใน 10 นาที และอยู่ใกล้กับคลาสสอนสกี ส่วนพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เอโยดิสซี ก็อง ฟู โซแล โดเดโยอยู่ห่างจากโรงแรมไป 3.4 กม. เพลิดเพลินกับการเล่นสกีได้ทั้งวันบนเนินเขา แล้วกลับมาที่ Résidence Lagrange Vacances Le Pic de l’Ours เพื่อนอนแช่ในสระว่ายน้ำในร่มและผ่อนคลายในห้องอบไอน้ำ
Résidence Pierre & Vacances Le Pédrou ที่พักใกล้ลานสกีพร้อมสกีลงเขาแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาใน Font-Romeu-Odeillo-Via มีทางสกีเข้าออกสามารถเดินไปสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งฟอ โรมู และสนามกอล์ฟ Golf de Font-Romeu ได้ใน 10 นาที และอยู่ใกล้กับกีฬาฤดูหนาวเช่นสกีครอสคันทรีและคลาสสอนสกี ส่วนพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เอโยดิสซี ก็อง ฟู โซแล โดเดโยอยู่ห่างจากโรงแรมไป 3.5 กม. Résidence Pierre & Vacances Le Pédrou มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ที่เก็บสกี Wi-Fi ฟรี และที่จอดรถฟรี ทั้งยังสามารถเดินทางสู่ลานสกีได้โดยตรง
โรงแรมอื่นๆ ในโอเกโล