โดย Expedia Team, 12 January 2020

จัดทริปพักกาย สโลวไลฟ์ 3 วัน 2 คืนที่แม่ฮ่องสอนและปางอุ๋ง

หากเอ่ยถึงจังหวัดในภาคเหนือของประเทศไทยที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการท่องเที่ยวธรรมชาติโดยเฉพาะหน้าหนาว “แม่ฮ่องสอน” คือหนึ่งในจังหวัดที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยสายหมอก และทัศนียภาพอันงดงามจนได้รับฉายาว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” เลยทีเดียว หากเพื่อนๆ คนไหนทำงานเหนื่อยหนักมาทั้งปีและอยากจะหาทริปพักกายสักทริปในช่วงปลายปีแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้จัดทริปสั้นๆ สัก 3 วัน 2 คืนไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนและปางอุ๋งกันดู รับรองว่าธรรมชาติของจังหวัดนี้จะทำให้เพื่อนๆ กลับมามีไฟทำงานอย่างเต็มพลัง ซึ่งแน่นอนว่าเอ็กซ์พีเดียก็มีแพลนทริปสโลวไลฟ์ 3 วัน 2 คืนที่แม่ฮ่องสอนและปางอุ๋งมาฝากเพื่อนๆ กันด้วย จะได้ตามไปเที่ยวกันได้ง่ายๆ เลย

เที่ยวแม่ฮ่องสอน-01
เที่ยวแม่ฮ่องสอน-02

สำหรับทริปนี้เราแนะนำให้เพื่อนๆ นั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงยังสนามบินแม่ฮ่องสอน (Mae Hong Son Airport) เพื่อความรวดเร็วและความสะดวกในการเดินทาง โดยเลือกเที่ยวบินไฟลท์เช้าที่สุดจะได้เที่ยวหลายที่ พร้อมกับเช่ารถพร้อมคนขับไว้ล่วงหน้า เพราะเราจะเที่ยวกันแบบชิลๆ ไม่ต้องเหนื่อยขับรถเที่ยวเอง

จัดทริปพักกาย สโลวไลฟ์ 3 วัน 2 คืนที่แม่ฮ่องสอนและปางอุ๋ง


วันที่ 1

● สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่วัดพระธาตุดอยกองมู

01-สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่วัดพระธาตุดอยกองมู-01

01-สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่วัดพระธาตุดอยกองมู-02
01-สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่วัดพระธาตุดอยกองมู-03
ภาพจาก : iStockPhoto

เริ่มต้นทริปเที่ยวแม่ฮ่องสอน – ปางอุ๋งกันด้วยการไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่พระธาตุดอยกองมู ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน วัดพระธาตุดอยกองมูมีพระธาตุเจดีย์อยู่ 2 องค์ ได้แก่ พระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2403 โดยจองต่องสู่ พ่อค้าชาวไทยใหญ่ ลักษณะเจดีย์เป็นทรงเครื่องแบบมอญ ฐานแปดเหลี่ยมซ้อน 3 ชั้น ฐานด้านล่างประดับด้วยซุ้มพระตามทิศทั้งแปด ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กนั้นสร้างเมื่อ พ.ศ. 2417 โดยพญาสิงหนาทราชา เจ้าผู้ครองแม่ฮ่องสอนคนแรก ภายในเป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระที่นำมาจากพม่า เจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญเช่นกัน มีฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อน 3 ชั้น มุมทั้ง 4 ของฐานมีปูนปั้นรูปสิงห์ประดับอยู่ บริเวณฐานด้านล่างประดับด้วยซุ้มพระ หลังคาประดับเรือนยอด 3 ยอด แต่ละยอดเป็นทรงปราสาทซ้อนสามชั้น มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้บริเวณวัดยังมีจุดชมวิวจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่งดงามมากอีกด้วย

ค่าเข้า
เวลาเปิด
ช่วงท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

● เที่ยวธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา – น้ำตกผาเสื่อ

02-เที่ยวธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ-01

02-เที่ยวธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ-02
02-เที่ยวธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ-03
ภาพจาก : iStockPhoto , Expedia

หลังจากไหว้พระเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีเพื่อมาเที่ยวกันที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา – น้ำตกผาเสื่อ ซึ่งถือว่าเป็นที่เที่ยวธรรมชาติที่สำคัญอีกแห่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไฮไลท์ของการเที่ยวธรรมชาติที่นี่ก็คือเพื่อนๆ จะได้ชมถ้ำปลาที่มีปลาตัวโตๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปลาคัง ปลามุง หรือปลาพลวง ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นปลาเจ้า ห้ามนำไปรับประทาน มิเช่นนั้นจะมีอันเป็นไป นอกจากนี้ยังมีน้ำตกผาเสื่อที่สูงประมาณ 10 เมตร กว้างประมาณ 15 เมตร เมื่อมีน้ำตกลงมาก็จะมีรูปร่างคล้ายเสื่อ อีกทั้งโอบล้อมไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้นานาพันธุ์ เป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่สวยงาม เหมาะกับการมานั่งชิลรับไอเย็นๆ สูดอากาศดีๆ เข้าปอดกัน

ค่าเข้า
เวลาเปิด
ช่วงท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

● นอนค้างคืนที่โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)

03-นอนค้างคืนที่โครงการพระราชดำริปางตอง-2-ปางอุ๋ง-01

03-นอนค้างคืนที่โครงการพระราชดำริปางตอง-2-ปางอุ๋ง-02
03-นอนค้างคืนที่โครงการพระราชดำริปางตอง-2-ปางอุ๋ง-03
ภาพจาก : iStockPhoto

จากอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา – น้ำตกผาเสื่อ เราเดินทางมาต่อกันที่โครงการพระราชดำริปางตอง 2 หรือปางอุ๋ง ซึ่งใช้เวลาเดินทางแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น โดยคืนแรกเราจะนอนค้างคืนกันปางอุ๋ง เพราะตอนเย็นเราจะมานั่งชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก ตอนกลางคืนจะได้ชมดาวนับล้านดวง และตื่นเช้ามาจะได้ชมหมอกกันอย่างเต็มอิ่มนั่นเอง ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญของทริปแม่ฮ่องสอน – ปางอุ๋งของเรา

การนอนค้างคืนที่ปางอุ๋งนั้นมีทั้งแบบบ้านพักเป็นหลังและแบบกางเต็นท์ มีผู้ให้บริการ 2 ส่วนด้วยกัน คือส่วนของโครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) และบ้านพักร่วมโครงการฯ ในหมู่บ้าน รายละเอียดและเงื่อนไขการจองแตกต่างกันออกไป แต่เราขอแนะนำให้เพื่อนๆ นอนเต็นท์จะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างเต็มอิ่มนั่นเอง

เวลาเปิด
ค่าเข้า
ช่วงท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

วันที่ 2

● ตื่นเช้าสัมผัสธรรมชาติและอากาศดีๆ ณ ปางอุ๋ง

04-ตื่นเช้าสัมผัสธรรมชาติและอากาศดีๆ-ณ-ปางอุ๋ง-01

04-ตื่นเช้าสัมผัสธรรมชาติและอากาศดีๆ-ณ-ปางอุ๋ง-02
04-ตื่นเช้าสัมผัสธรรมชาติและอากาศดีๆ-ณ-ปางอุ๋ง-03
ภาพจาก : iStockPhoto

ปางอุ๋งเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระราชประสงค์ในการสร้างความมั่นคงและพัฒนาความเป็นอยู่ให้กับราษฎรในพื้นที่ เนื่องจากสมัยก่อนบริเวณนี้ติดกับชายแดนพม่า มีการขนส่งและปลูกพืชเสพติด พระองค์จึงมีพระราชดำริให้สร้างอ่างเก็บน้ำและส่งเสริมอาชีพปลูกป่า เพื่อฟื้นฟูพื้นที่บริเวณนี้ให้อุดมสมบูรณ์และชาวบ้านมีรายได้นั่นเอง

ปางอุ๋งได้รับฉายาว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” อันเนื่องมาจากความงดงามของภูเขา ทะเลหมอกเหนืออ่างเก็บน้ำ และทิวสนที่เรียงรายอย่างสวยงาม ซึ่งภารกิจในวันที่สองนี้คือการชมหมอกและสัมผัสอากาศเย็นๆ ในตอนเช้า สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดอย่างเต็มที่ ถ่ายรูปสวยๆ กันให้เต็มอิ่ม แล้วไปล่องแพไม้ชมทัศนียภาพสวยๆ ของปางอุ๋งกัน ไฮไลท์ของการล่องแพนี้นอกจากจะได้ชมวิวสวยๆ แล้ว เราจะได้ชมหงส์ดำและหงส์ขาว พระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ในตอนเช้าหงส์จะออกมากินอาหารบริเวณจุดลงแพนั่นเอง

ค่าเข้า
เวลาเปิด
ช่วงท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

● จิบชาร้อนๆ ถ่ายรูปสวยๆ ที่ลีไวน์รักไทย

05-จิบชาร้อนๆ-ถ่ายรูปสวยๆ-ที่ลีไวน์รักไทย-01

05-จิบชาร้อนๆ-ถ่ายรูปสวยๆ-ที่ลีไวน์รักไทย-02
05-จิบชาร้อนๆ-ถ่ายรูปสวยๆ-ที่ลีไวน์รักไทย-03
ภาพจาก : iStockPhoto

จากปางอุ๋งเรามาต่อกันที่ลีไวน์รักไทย โดยใช้เวลาขับรถมาเพียง 25 นาทีเท่านั้น ลีไวน์รักไทยเป็นทั้งไร่ชาและรีสอร์ทสไตล์จีนยูนนานที่บรรยากาศสวยงามมาก เพื่อนๆ จะได้เห็นบ้านดินที่ปลูกลดหลั่นไปตามไร่ชาขั้นบันได เป็นสถานที่ถ่ายรูปที่สวยงามมากเลยล่ะ นอกจากนี้เพื่อนๆ สามารถไปนั่งจิบชาร้อนๆ เคล้าสายหมอกโดยมีอ่างเก็บน้ำเป็นวิวสวยๆ ให้เราชม นั่งทานอาหารสไตล์จีนยูนนานอย่างขาหมูหมั่นโถว ไก่ดำตุ๋นยาจีน ยำใบชาเห็ดหอมทอดที่อร่อยมาก เป็นการเติมพลังในมื้อเที่ยงของเรา แอบกระซิบบอกไว้ตรงนี้เลยว่าสาวๆ เตรียมชุดไปถ่ายรูปเยอะๆ ได้เลยนะ เพราะบรรยากาศสวยงามมากจริงๆ

ค่าเข้า
เวลาเปิด
พักที่?
ช่วงท่องเที่ยว
เดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์

วันที่ 3

● ตื่นเช้าใส่บาตรที่สะพานซูตองเป้

06-ตื่นเช้าใส่บาตรที่สะพานซูตองเป้-01

06-ตื่นเช้าใส่บาตรที่สะพานซูตองเป้-02
06-ตื่นเช้าใส่บาตรที่สะพานซูตองเป้-03
ภาพจาก : iStockPhoto

เช้าวันที่สามของเรานี้ เราจะเดินทางมาใส่บาตรกันที่สะพานซูตองเป้ โดยพระจะออกมาบิณฑบาตที่สะพานทุกเช้าตั้งแต่เวลา 06.30 – 07.30 น. การใส่บาตรที่สะพานแห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เพื่อนๆ ห้ามพลาดเช่นกัน สะพานซูตองเป้เป็นสะพานไม้ไผ่ ยาวประมาณ 500 เมตร คำว่า “ซูตองเป้” เป็นภาษาไทใหญ่ แปลว่า อธิษฐานสำเร็จ หรือความสำเร็จ เชื่อกันว่าหากใครได้มายืนบนสะพานแห่งนี้แล้วอธิษฐานขอพรก็จะพบแต่ความสำเร็จนั่นเอง

ค่าเข้า
เวลาเปิด
ช่วงท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

● กินก๋วยเตี๋ยวกับวิวสวยๆ ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่

07-กินก๋วยเตี๋ยวกับวิวสวยๆ-ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่-01

07-กินก๋วยเตี๋ยวกับวิวสวยๆ-ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่-02
07-กินก๋วยเตี๋ยวกับวิวสวยๆ-ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่-03
ภาพจาก : iStockPhoto

หลังจากใส่บาตรเสร็จแล้วก็กลับไปเก็บของที่โรงแรมแล้วออกเดินทางไปต่อกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ ร้านเด็ดร้านดังในจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่เวลาใครไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน – ปางอุ๋งก็ต้องห้ามพลาด! เพราะเพื่อนๆ จะได้ทานก๋วยเตี๋ยวราคาหลักสิบในวิวหลักล้าน นั่งห้อยขาทานก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ พร้อมกับวิวสวยๆ ของธรรมชาติในแม่ฮ่องสอนนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวให้เพื่อนๆ ไปยืนถ่ายรูปสวยๆ กับทะเลหมอกกันด้วยนะ หากใครอยากถ่ายรูปสวยๆ กับทะเลหมอกก็ต้องรีบเดินทางไปที่นี่ในตอนเช้าก่อน 9 โมง

ค่าเข้า
เวลาเปิด
ช่วงท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

● ปิดทริปอย่างเป็นสิริมงคลที่วัดจองคำ

08-ปิดทริปอย่างเป็นสิริมงคลที่วัดจองคำ-01

08-ปิดทริปอย่างเป็นสิริมงคลที่วัดจองคำ-02
08-ปิดทริปอย่างเป็นสิริมงคลที่วัดจองคำ-03
ภาพจาก : iStockPhoto

หลังจากทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้วก็ถึงเวลาเดินทางไปยังสนามบินเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน ซึ่งใกล้กับสนามบินนั้นยังมีวัดอีกหนึ่งแห่งที่เพื่อนๆ ควรแวะไปก็คือวัดจองคำ วัดแห่งแรกของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ตั้งอยู่ติดกับหนองน้ำ ทำให้มีบรรยากาศและวิวที่สวยงามมาก ภายในวัดแห่งนี้มีเจดีย์วัดจองคำที่ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีวิหารหลวงพ่อโตที่ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธานหลวงพ่อโต และอื่นๆ อีกมากมายให้เราได้กราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตเป็นการปิดทริปพักกาย สโลวไลฟ์ 3 วัน 2 คืนที่แม่ฮ่องสอนและปางอุ๋งก่อนเดินทางกลับบ้านนั่นเอง

ค่าเข้า
เวลาเปิด
ช่วงท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

[package_deals title=’ดีลแนะนำ กรุงเทพฯ-แม่ฮ่องสอน’ deals=’packages,flights,hotels’ origin=’BKK’ destination=’HGN’ dest_region=’19165068′ ]