ประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศของคนไทยตลอดทั้งปี ดังนั้นเอ็กซ์พีเดียขอถือโอกาสมาแจกแพลนเที่ยวโอซาก้า 4 วัน 3 คืนแบบละเอีดยิบ! ให้กับเพื่อนๆ กัน ซึ่งบอกได้เลยว่าการเที่ยวโอซาก้านั้นง่ายมากๆ เพื่อนๆ สามารถไปเที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเองกันได้ไม่ยากเลย แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายและหลากหลายรูปแบบ เหมาะทั้งสายกิน สายช็อปปิ้ง สายหลงใหลในวัฒนธรรมญี่ปุ่นเลย

วันที่ 1
● ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
ภาพจาก : iStockPhoto
วันแรกของทริปเที่ยวโอซาก้า 4 วัน 3 คืน เมื่อเพื่อนๆ เดินทางมาถึงโอซาก้า ประเทศญ๊่ปุ่นแล้ว เราแนะนำให้เพื่อนๆ เข้าพักในโรงแรมย่านโดทงโบริ ซึ่งเป็นย่านสุดครึกครื้นของโอซาก้า เพื่อนๆ สามารถไปเช็คอินที่โรงแรมแล้วออกไปหาอะไรกินกันได้เลย
ย่านโดทงโบรินี้นี่แหละที่เป็นที่ตั้งของป้ายกูลิโกะจุดแลนด์มาร์กสำคัญของโอซาก้า ไม่ว่าใครที่มาเที่ยวโอซาก้าต่างก็ต้องแวะมาถ่ายรูปเช็คอินกันที่นี่ นอกจากนี้โดทงโบริยังเต็มไปด้วยร้านค้าให้เลือกช็อปปิ้งมากมาย ที่สำคัญคือมีร้านอาหารจำนวนมากตั้งอยู่จนได้ชื่อว่าเป็นห้องครัวของโอซาก้าเลยทีเดียว ทั้งร้าน Acchichi Honpo ร้านทาโกะยากิเจ้าดัง หรือจะเป็นราเมงข้อสอบที่นี่ก็มีให้กินเช่นเดียวกัน บางคนถึงขั้นมาโดทงโบริทุกวันตอนเที่ยวอยู่เที่ยวโอซาก้าก็มี!
ไม่เสียค่าเข้าชม
ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดทุกวัน 11.00 – 23.00 น.
สามารถนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงยังสนามบินนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport) จากนั้นนั่งคันไซ-แอร์พอร์ต ลิมูซีน บัส (Kansai-Airport Limousine Bus) ไปลงที่นัมบะ (Namba) แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 600 เมตรก็จะถึงยังย่านโดทงโบริ รวมระยะเวลาการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,600 JPY (450 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค.62
Cross Hotel Osaka โรงแรม 4 ดาว ในนัมบะ, โอซาก้า สามารถเดินไปย่านช้อปปิ้งชินไซบาชิได้
นอกจาก 2 ห้องอาหารแล้ว โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้ ยังมีบาร์/เลานจ์ และร้านกาแฟ/คาเฟ่ มี บริการ WiFi ในพื้นที่สาธารณะฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ ที่จอดรถ (คิดค่าบริการ), บริการคอนเซียร์จ และบริการซักแห้ง ห้องพักทั้ง 229 ห้อง มีอ่างอาบน้ำแบบแช่ตัว และยังมี Wi-Fi ฟรี และทีวีให้บริการ นอกจากนี้ ยังมีอินเทอร์เน็ตแบบใช้สายฟรี, ตู้เย็น และเครื่องชงกาแฟ



Onyado Nono Namba Natural Hot Spring โรงแรม 3.5 ดาว ในนัมบะ, โอซาก้า สามารถเดินไปตลาดคุโรมอนอิจิบะได้
โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้มีห้องอาหาร, มีไมโครเวฟให้บริการที่ส่วนกลาง และบริการซักแห้ง มี บริการ WiFi ในพื้นที่สาธารณะฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ อุปกรณ์ซักรีด, ฝ่ายต้อนรับ 24 ชั่วโมง และพนักงานที่พูดได้หลายภาษา ห้องพักทั้ง 168 ห้อง มี WiFi และอินเทอร์เน็ตแบบใช้สายให้บริการฟรี และมีทีวีจอแบนที่มาพร้อมช่องดาวเทียม รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ตู้เย็น และเครื่องชงกาแฟ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่มีให้บริการแก่ผู้เข้าพัก ได้แก่ น้ำดื่มบรรจุขวดฟรี, ไดร์เป่าผม และตู้นิรภัย
โรงแรมอื่นๆ ในย่านโดทงโบริ
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
● พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan)

ภาพจาก : iStockPhoto
หลังจากเช็คอินกันเสร็จมีเวลาช่วงบ่ายเหลือๆ เราแนะนำให้ไปสถานที่ท่องเที่ยวโอซาก้ายอดฮิตอย่างพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ไม่ได้มีแค่สัตว์น้ำเท่านั้น! แต่ยังมีสัตว์ชนิดต่างๆ เช่น สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น ตัวนากน่ารักๆ ให้เพื่อนๆ ได้ชมกันอีกด้วยรวมทั้งหมดกว่า 620 สายพันธุ์เลยทีเดียว การเดินเที่ยวเล่นในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ก็เท่มากๆ เพราะเพื่อนๆ ต้องขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นบนสุดแล้วเดินวนลงมาด้านล่างผ่านโซนที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ เช่น โซนป่าญี่ปุ่น โซนมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีปลาฉลามวาฬสุดเท่ให้เพื่อน ๆ ได้ชมกัน หากเพื่อนๆ เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเสร็จแล้ว บริเวณรอบๆ ยังชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Giant Ferris Wheel) ให้เพื่อนๆ ขึ้นไปนั่งชมวิวของอ่าวโอซาก้ายามค่ำคืนได้อีกด้วย
- ผู้ใหญ่อายุ 16 ปีขึ้นไปหรือนักเรียนชั้นมัธยมปลายขึ้นไป 2,300 JPY (640 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค.62
- ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 2,000 JPY (555 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค.62
- นักเรียนชั้นประถมและมัธยมต้น 1,200 JPY (330 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค.62
- เด็กเล็กอายุ 4 – 6 ปี 600 JPY (165 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค.62
- เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ไม่เสียค่าเข้าชม
ทุกวัน 10.00 – 20.00 น.
สามารถนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงยังสนามบินนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport ) จากนั้นนั่ง JR สาย Kansaikuko ไปลงที่สถานี Nishikujo แล้วเปลี่ยนไปขึ้นสาย Sakurajima เพื่อไปลงที่สถานี Universal-City ก็จะถึงยังยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน รวมระยะเวลาการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,210 JPY (340 บาท ) ข้อมูล ณ วันที่ 24ต.ค.62
Hotel Keihan Universal Tower โรงแรมริมอ่าวในมินาโตะ, โอซาก้า สามารถเดินไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังได้ โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้มีห้องอาหาร, ห้องประชุม และบริการซักแห้ง มี บริการ WiFi ในพื้นที่สาธารณะฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีฝ่ายต้อนรับ 24 ชั่วโมง, บริการจองทัวร์/ตั๋ว และบริการจัดงานแต่งงาน ห้องพักทั้ง 96 ห้อง มีอ่างอาบน้ำแบบแช่ตัว และยังมี Wi-Fi ฟรี และทีวีจอแอลซีดีให้บริการ นอกจากนี้ ยังมีตู้เย็น, ไดร์เป่าผม และโทรศัพท์
GUEST HOUSE Rice Chikko โรงแรมในมินาโตะ, โอซาก้า สามารถเดินไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังได้
โรงแรมแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น บาร์/เลานจ์, มีไมโครเวฟให้บริการที่ส่วนกลาง และมีตู้เย็นให้บริการที่ส่วนกลาง พร้อมให้บริการ มี บริการ WiFi ในพื้นที่สาธารณะฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ จักรยานฟรี, อุปกรณ์ซักรีด และตู้ขายของอัตโนมัติ ห้องพักทั้ง 11 ห้อง มีWi-Fi ฟรี, ทีวีจอแบน และไดร์เป่าผม สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่มีให้บริการแก่ผู้เข้าพัก ได้แก่ ตู้นิรภัย, ฝักบัว และของใช้ในห้องน้ำฟรี ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม และมีบริการทำความสะอาด 1 ครั้งต่อการเข้าพัก
โรงแรมอื่นๆ ใกล้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
วันที่ 2
● ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan)

ภาพจาก : iStockPhoto
วันที่ 2 ของทริปเที่ยวโอซาก้า 4 วัน 3 คืนจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลยนอกจากยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน สวนสนุกระดับโลกสุดฮิตที่ตั้งอยู่ที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เป็นแหล่งรวมความบันเทิงระดับโลกในโอซาก้าที่เพื่อนๆ สามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน ภายในมีทั้งเครื่องเล่นและโชว์น่าสนใจแบ่งออกเป็นหลายโซน เช่น โซนนิวยอร์ก (New York) ซึ่งมีเครื่องเล่นสุดเจ๋งอย่างแอดเวนเจอร์ออฟสไปเดอร์แมน (Adventures of Spider Man) ที่ถ้าหากใครเป็นแฟนสไปเดอร์แมนนั้นก็คงจะฟินกันแน่นอน หากเพื่อนๆ คนไหนชอบมินเนียนต้องฟินแน่ๆ เพราะที่นี่มีโซนมินเนียนใหญ่โต มีทั้งเครื่องเล่นที่ให้เพื่อนๆ ได้กลายร่างเป็นมินเนียนไปตะลุยโลกของมินเนียนกัน รวมไปถึงมีร้านขายของน่ารักๆ เพียบ! ส่วนโซนที่พลาดไม่ได้เลยก็คงจะหนีไม่พ้นโซน แฮร์รี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) ที่แค่ก้าวเท้าเข้าไปในโซนนี้ก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศแห่งเมืองเวทย์มนต์ ทั้งหมู่บ้านฮอกมี้ดส์และปราสาทฮอกวอตส์ที่มีเครื่องเล่น Harry Potter and the Forbidden Journey ตั้งอยู่ในปราสาท เมื่อเพื่อนๆ สนุกกับเครื่องเล่นที่นี่อย่างเต็มอิ่มแล้วก็สามารถไปหาอาหารอร่อยๆ ทานได้ที่โซนยูนิเวอร์แซล ซิตี้วอล์ค โอซาก้า (Universal Citywalk Osaka) ได้ด้วยนะ หลังจากนั้นก็เดินทางกลับโรงแรมไปนอนพักให้เต็มแรงได้เลย
- ผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีขึ้นไป) ราคา 7,600 JPY (2,110 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค.62
- เด็ก (อายุ 4 – 11 ปี) ราคา 5,200 JPY (1,445 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค.62
- ผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 65 ปี) ราคา 6,800 JPY (1,890 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค.62
ขึ้นอยู่กับวันเวลาและฤดูกาลส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 08.30 น. หรือ 09.00 – 22.00 น.
สามารถนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงยังสนามบินนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport ) จากนั้นนั่ง JR สาย Kansaikuko ไปลงที่สถานี Nishikujo แล้วเปลี่ยนไปขึ้นสาย Sakurajima เพื่อไปลงที่สถานี Universal-City ก็จะถึงยังยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน รวมระยะเวลาการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,210 JPY (340 บาท ) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค. 62
Hotel Keihan Universal Tower โรงแรม 3.5 ดาว ในโคโนะฮะนะ, โอซาก้า สามารถเดินไปศูนย์การค้า Universal CityWalk® Osakaได้
โรงแรมนี้มีห้องอาหาร, สโมสรสำหรับเด็กฟรี และที่จอดรถ (คิดค่าบริการ) มี บริการ WiFi ในพื้นที่สาธารณะฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีบริการสปา, ฝ่ายต้อนรับ 24 ชั่วโมง และกล่องนิรภัยที่ฝ่ายต้อนรับ ห้องพักทั้ง 641 ห้อง มีอ่างอาบน้ำแบบแช่ตัว และยังมี Wi-Fi ฟรี และทีวีให้บริการ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่มีให้บริการแก่ผู้เข้าพัก ได้แก่ อินเทอร์เน็ตแบบใช้สายฟรี, ตู้เย็น และกาต้มน้ำไฟฟ้า



The Park Front Hotel at Universal Studios Japan โรงแรม 3.5 ดาว ในโคโนะฮะนะ, โอซาก้า สามารถเดินไปยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ ประเทศญี่ปุ่น™ได้
นอกจาก 3 ห้องอาหารแล้ว โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้ ยังมี2 ร้านกาแฟ/คาเฟ่ และที่จอดรถ (คิดค่าบริการ) มี บริการ WiFi ในพื้นที่สาธารณะฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ มีไมโครเวฟให้บริการที่ส่วนกลาง, บริการซักแห้ง และอุปกรณ์ซักรีด ห้องพักทั้ง 598 ห้อง มีอ่างอาบน้ำแบบแช่ตัว และยังมี Wi-Fi ฟรี และทีวีจอแบนให้บริการ นอกจากนี้ ยังมีอินเทอร์เน็ตแบบใช้สายฟรี, ตู้เย็น และอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกจากกัน
โรงแรมอื่นๆ ใกล้ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
วันที่ 3
● สวนนารา (Nara Park) เมืองนารา (Nara)

ภาพจาก : iStockPhoto
เมื่อเข้าสู่วันที่ 3 ของทริปเที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเองนี้ เราแนะนำให้เพื่อนๆ ออกไปเที่ยวนอกเมืองโอซาก้าอย่างนาราและเมืองเกียวโต ที่แรกที่เราแนะนำให้เพื่อนๆ ไปกัก็คือสวนนารา แห่งเมืองนารา ที่นี่โด่งดังมากในเรื่องของกวาง! เพราะมีกวางอยู่มากกว่า 1,000 ตัว แถมกวางยังน่ารัก แสนรู้มากๆ เพื่อนๆ สามารถซื้อขนมเซมเบ้ไปป้อนให้กวางกินได้เลย บรรยากาศที่ดีก็ดีมาก ชิลมาก อีกทั้งบริเวณเดียวกันนี้ยังมีวัดโทไดจิ (Todaiji Temple) หรือวัดหลวงพ่อโตแม่งเมืองนาราตั้งอยู่ ซึ่งเป็นวัดที่มีอาคารไม้ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากเพื่อนๆ จะได้ให้อาหารกวาง ได้ไปไหว้พระหลวงพ่อโต (ไดบุตสึเดน) ของเมืองนาราแล้วยังจะได้ชมสถาปัตยกรรมอันสวยงามไปพร้อมๆ กันด้วย
ไม่เสียค่าเข้าชม
เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
สามารถนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงยังสนามบินนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport) จากนั้นสามารถนั่งคันไซ-แอร์พอร์ต ลิมูซีน บัส (Kansai-Airport Limousine Bus) ไปลงที่ Nara Hotel แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 350 เมตรก็จะถึงยังสวนนารา รวมระยะเวลาการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 35 นาที ค่าใช้จ่ายประมาณ 2,100 JPY (590 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค.62
Nara Hotel โรงแรม 4 ดาว สามารถเดินไปพิพิธภัณฑ์แห่งชาตินาราได้
โรงแรมนี้มี 2 ห้องอาหาร, บาร์/เลานจ์ และร้านกาแฟ/คาเฟ่ ทางที่พักยังให้บริการ บริการ WiFi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ และที่จอดรถฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ พื้นที่จัดการประชุม, บริการซักแห้ง และอุปกรณ์ซักรีด ห้องพักทั้ง 127 ห้อง มีอ่างอาบน้ำแบบแช่ตัว และยังมี Wi-Fi ฟรี และทีวีจอแบนให้บริการ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่มีให้บริการแก่ผู้เข้าพัก ได้แก่ อินเทอร์เน็ตแบบใช้สายฟรี, มินิบาร์ และรูมเซอร์วิส
HOTEL PAGODA โรงแรม 3 ดาว สามารถเดินไปศาลเจ้าโกฟูคุจิได้
โรงแรมนี้มีฝ่ายต้อนรับ 24 ชั่วโมง, ที่จอดรถฟรี และบริการ WiFi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ ห้องจัดเลี้ยง ห้องพักทั้ง 23 ห้อง มีWi-Fi ฟรี, ไดร์เป่าผม และของใช้ในห้องน้ำฟรี
โรงแรมอื่นๆ ในนารา
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีช่วงเดือนพฤศจิกายนจะสวยงามมากเป็นพิเศษ
● ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ ไทฉะ (Fushimi Inari Taisha)

ภาพจาก : iStockPhoto
ถัดจากเมืองนาราเราก็รีบมุ่งหน้าไปยังเกียวโต เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น โดยที่นี่มีศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ ไทฉะหรือศาลเจ้าแดงเก่าแก่ที่คนไทยรู้จักกันดี เป็นที่นับถือของคนญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน หลักจากที่เพื่อนๆ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยแล้วต้องไม่พลาดเดินมายังด้านหลังศาลเจ้า ซึ่งเป็นเนินเขาที่เต็มไปด้วยเสาประตูสีแดงโทริอิกว่าหมื่นต้น ใครกำลังมองหาจุดถ่ายรูปสวยๆ ในเกียวโตก็ต้องมาที่นี่เลย
ไม่เสียค่าเข้าชม
เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
สามารถนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงยังสนามบินนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport) หลังจากนั้นนั่ง JR สาย Haruka ไปลงที่สถานี Kyoto แล้วเปลี่ยนไปขึ้น JR สาย Nara ลงที่สถานี Inari จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 30 เมตรก็จะถึงยังศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ ไทฉะ รวมระยะเวลาการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ค่าใช้จ่ายประมาณ 3,720 JPY (1,040 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค. 62
Fushimi Inari Toriimaecho no Yado บ้านพักตากอากาศ 3 ดาว สามารถเดินไปศาลเจ้าฟุชิมิอินาริได้
บ้านพักตากอากาศปลอดบุหรี่แห่งนี้มีสวน และบริการ WiFi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ บ้านพักตากอากาศแห่งนี้มี เครื่องซักผ้า และมีครัวขนาดเล็กพร้อมตู้เย็น เตาทำครัว และไมโครเวฟพร้อมให้บริการ ผู้เข้าพักต้องชื่นชอบกับสิ่งอำนวยความสะดวกนานาชนิด เช่น กาต้มน้ำไฟฟ้า หม้อหุงข้าว Wi-Fi ฟรี และทีวีจอแบน
Kyo-machiya Stay WAKA Fushimiinari-tei บ้านพักตากอากาศหรู 4.5 ดาว สามารถเดินไปศาลเจ้าฟุชิมิอินาริได้
บ้านพักตากอากาศปลอดบุหรี่แห่งนี้มีบาร์/เลานจ์ พร้อมด้วยห้องอบไอน้ำ และจักรยานฟรี ทางที่พักยังให้บริการ บริการ WiFi ฟรีในพื้นที่สาธารณะ และที่จอดรถฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีบริการคอนเซียร์จ, บริการซักแห้ง และอุปกรณ์ซักรีด บ้านพักตากอากาศแห่งนี้มี 4 ห้องนอน พร้อม บริการ WiFi ฟรี และ เครื่องเล่นดีวีดี เพลิดเพลินไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู เช่น อ่างอาบน้ำแบบหัวเจ็ต ครัวพร้อมตู้เย็น/ตู้แช่แข็ง และเตาอบ มีบริการทำความสะอาดแบบจำกัดครั้ง
โรงแรมอื่นๆ ใกล้ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ ไทฉะ
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
● วัดคิโยะมิซุหรือวัดน้ำใส (Kiyomizu-dera) เมืองเกียวโต (Kyoto)

ภาพจาก : iStockPhoto
สถานที่ท่องเที่ยวโอซาก้าที่สุดท้ายของเราในวันนี้คือ “วัดคิโยะมิซุ” หรือวัดน้ำใสนั่นเอง วัดน้ำใสนั้นเป็นวัดที่โด่งดังมากในญี่ปุ่น เพราะเป็นวัดที่มีอาคารไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาโดยไม่มีการตอกตะปูแม้แต่ตัวเดียวเป็นสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่ทั้งน่าทึ่งและสวยงามมากๆ จนได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนน่ารักๆ ซึ่งเป็นร้านขายของที่ระลึกให้เพื่อนๆ ได้ไปซื้อของที่ระลึกจากญี่ปุ่นกลับไปได้อีกด้วย
- ผู้ใหญ่ ราคา 400 JPY (110 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค.62
- เด็ก ราคา 200 JPY (55 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค.62
ทุกวัน ตั้งแต่ 06.00 – 18.00 น.
สามารถนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงยังสนามบินนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport) จากนั้นนั่งรถไฟ JR สาย Haruka ไปลงที่สถานี Kyoto แล้วเดินต่อไปประมาณ 400 เมตรเพื่อไปยังป้ายรถบัส Kyoto Ekimae จากนั้นขึ้นรถบัส Sheiei 206 Ko ไปลงที่ป้ายบัส Gojozaka แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 1,000 เมตรก็จะถึงยังวัดคิโยะมิซุ รวมระยะเวลาการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 5 นาที ค่าใช้จ่ายประมาณ 3,660 JPY (1,020 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24ต.ค.62
Hyatt Regency Kyoto โรงแรมหรู 4.5 ดาว สามารถเดินไปวัดซันจุซังเกนโดได้
โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้มี 3 ห้องอาหาร, บริการสปาครบวงจร และเฮลท์คลับ มี บริการ WiFi ในพื้นที่สาธารณะฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีบาร์/เลานจ์, ร้านกาแฟ/คาเฟ่ และอ่างสปา ห้องพักทั้ง 187 ห้อง มีอ่างอาบน้ำแบบแช่ตัว และยังมี Wi-Fi ฟรี และรูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมงให้บริการ นอกจากนี้ ยังมีอินเทอร์เน็ตแบบใช้สาย (ฟรี), เครื่องเล่นดีวีดี และทีวีจอแอลซีดีพร้อมช่องดิจิตอล
Kyoto Yura Hotel – MGallery โรงแรมหรูในซานโจ, เกียวโต สามารถเดินไปปอนโตะ โจได้
โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้มีห้องอาหาร, ฟิตเนสที่เปิด 24 ชั่วโมง และบาร์/เลานจ์ มี บริการ WiFi ในพื้นที่สาธารณะฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ รูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง, บริการคอนเซียร์จ และบริการซักแห้ง ห้องพักเก็บเสียงทั้ง 144 ห้อง มี บริการ WiFi ฟรี และรูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ครบครันทั้งเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ, ตัวเลือกหมอนชนิดต่างๆ, มินิบาร์ และทีวีจอแอลซีดี
โรงแรมอื่นๆ ใกล้วัดคิโยะมิซุ
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
วันที่ 4
● ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

ภาพจาก : iStockPhoto
วันสุดท้ายของทริปเที่ยวโอซาก้ารอบนี้ก่อนจะบินกลับไทย เมื่อเพื่อนๆ เช็คเอาท์เสร็จแล้วเราแนะนำให้ไปเที่ยวแลนด์มาร์กอีกแห่งนั่นก็คือ ปราสาทโอซาก้านั่นเอง ความงดงามของปราสาททรงญี่ปุ่นนี้ตั้งอยู่ในสวนปราสาทโอซาก้า และถูกล้อมรอบด้วยน้ำ บรรยากาศมีความร่มรื่นมาก หลังจากเพื่อนๆ เดินเล่นบริเวณสวนเสร็จก็สามารถเข้าไปชมภายในตัวปราสาทได้ ซึ่งมีทั้งหมด 8 ชั้น บริเวณชั้น 1 – ชั้น 7 นั้นเป็นนิทรรศการจัดแสดงเรื่องราวต่างๆ ของปราสาท ส่วนชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวโอซาก้าที่สวยงามมาก แอบกระซิบให้ทราบว่าปราสาทโอซาก้านี้ที่ใช้เวลาสร้างนานถึง 16 ปีเลยทีเดียว แถมยังได้เป็น 1 ใน 3 ปราสาทญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วยนะ ถือว่าเป็นการเที่ยวปิดทริปเที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเองอย่างครบทุกรสชาติสุดๆ
ผู้ใหญ่ 600 JPY (165 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค.62
ทุกวัน ตั้งแต่ 09.00– 17.00 น.
สามารถนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงยังสนามบินนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport) จากนั้นนั่ง JR สาย Kansaikuko ไปลงสถานี Osakajokoen แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 1,300 เมตรก็จะถึงยังปราสาทโอซาก้า รวมระยะเวลาการเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง 40 นาที ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,210 JPY (340 บาท) ข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค.62
Hotel New Otani Osaka โรงแรมริมแม่น้ำในชูโอะ, โอซาก้า สามารถเดินไปสวนสาธารณะปราสาทโอซาก้าได้
โรงแรมแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น 10 ห้องอาหาร, สระว่ายน้ำในร่ม และ3 บาร์/เลานจ์ พร้อมให้บริการ มี บริการ WiFi ในพื้นที่สาธารณะฟรี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังมีฟิตเนส, 2 ร้านกาแฟ/คาเฟ่ และสนามเทนนิสกลางแจ้ง ห้องพักเก็บเสียงทั้ง 525 ห้อง มี WiFi ฟรี, อินเทอร์เน็ตแบบใช้สายฟรี และมินิบาร์ นอกจากจะมีตู้เย็น และกาต้มน้ำไฟฟ้าแล้ว คุณยังจะปลื้มกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่แสดงถึงความใส่ใจรายละเอียด เช่น ตัวเลือกหมอนชนิดต่างๆ และรองเท้าสวมภายในห้อง



APA Villa Hotel Osaka-Tanimachi 4 Chome-Ekimae โรงแรม 3 ดาว ในชูโอะ, โอซาก้า สามารถเดินไปพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้าได้
โรงแรมปลอดบุหรี่แห่งนี้มีห้องอาหาร, ซาวน่า และที่จอดรถ (คิดค่าบริการ) มี บริการ WiFi ในพื้นที่สาธารณะฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ ห้องนวด/ทรีทเมนท์, บริการคอนเซียร์จ และบริการซักแห้ง ห้องพักทั้ง 339 ห้อง มี WiFi และอินเทอร์เน็ตแบบใช้สายให้บริการฟรี แถมยังมีตู้เย็น และทีวีจอแอลอีดีพร้อมช่องดิจิตอล สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่มีให้บริการแก่ผู้เข้าพัก ได้แก่ ผ้านวมขนเป็ด, ไดร์เป่าผม และตู้นิรภัย
โรงแรมอื่นๆ ใกล้ปราสาทโอซาก้า
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี